บมจ.เอส เอ็น ซี ฟอร์เมอร์(SNC)ตั้งเป้าปี 55 กำไรเติบโตมากกว่า 20% หลังจากเน้นรับงานที่มีอัตรากำไรดีเป็นหลัก ซึ่งคาดว่าอัตรากำไรสุทธิในปีนี้จะสูงขึ้นเป็น 7.5% จากปีก่อนอยู่ที่ 6.2% ขณะที่รายได้คาดว่าจะเติบโตราว 20% ซึ่งได้เห็นในช่วงไตรมาส 1/55 เริ่มฟื้นตัวขึ้น โดยเติบโตถึง 70% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/54
บริษัทคาดว่าในปีนี้จะรับรู้รายได้จากกิจการร่วมทุนกับพันธมิตรจากญี่ปุ่นราว 100-200 ล้านบาท ขณะที่อยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรในธุรกิจยานยนต์อีก 1-2 ราย คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้ ซึ่งจะช่วยผลักดันให้รายได้ของบริษัทเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ 1.5 หมื่นล้านบาทในปี 58 โดยก่อนที่จะถึงปี 58 บริษัทคาดว่าหุ้นจะได้เข้าคำนวณในดัชนี SET100
นายสมชัย ไทยสงวนวรกุล ประธานกรรมการบริหาร SNC กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าปี 55 มีกำไรเติบโตมากกว่า 20% จากปี 54 ที่มีกำไร 520 ล้านบาท ส่วนรายได้คาดว่าเติบโต 20% หรือแตะ 1 หมื่นล้านบาท จากปี 54 อยู่ที่ 8.3 พันล้านบาท เนื่องจากปีนี้บริษัทจะหันมารับงานที่มีกำไรสูง โดยเฉพาะการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ที่มีอัตรากำไรขั้นต้น(มาร์จิ้น) 2 หลัก ซึ่งจะส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิของบริษัทปีนี้เพิ่มเป็น 7.5% จากปีก่อนอยู่ที่ 6.2%
นอกจากนี้ บริษัทตั้งเป้ามีรายได้รวมในปี 58 อยู่ที่ 1.85 หมื่นล้านบาท
สำหรับแนวโน้มรายได้ในไตรมาส 1/55 คาดว่าเติบโต 70% จากไตรมาส 4/54 ที่มีรายได้ 1 พันล้านบาท เนื่องจากขณะนี้ออร์เดอร์จากลูกค้าได้กลับเข้าสู่ภาวะปกติ โดยบริษัทมีออร์เดอร์ล่วงหน้าถึงสิ้นปีแล้ว หลังจากไตรมาส 4/54 ลูกค้าชะลอการสั่งซื้อสินค้าจากผลกระทบน้ำท่วม
"ปีนี้ธุรกิจเรายังขยายตัวต่อเนื่อง ทั้งธุรกิจเดิมในส่วนชิ้นส่วนแอร์บ้าน ชิ้นส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้า และปีนี้เราจะเน้นชิ้นส่วนยานยนต์มากขึ้น รวมทั้งการหาพันธมิตรเพื่อร่วมทุนซึ่งจะทำให้เราสามารถเพิ่มฐานลูกค้าและได้รับเทคโนโลยีที่สูงขึ้น...ส่วนการเข้า SET100 ยังเป็นความฝันของเรา ก็อยากให้เกิดขึ้นก่อนเปิด AEC ในปี 58 ซึ่งจะทำให้ราคาหุ้นของบริษัทอยู่ที่ 35 บาท พีอี 9 เท่า และ book value 3 เท่า"นายสมชัย กล่าว
ส่วนการร่วมทุนกับพันธมิตรญี่ปุ่นในการขยายกำลังการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ จะได้ติดตั้งเครื่องจักรจะแล้วเสร็จในเดือน มี.ค.55 และเริ่มเดินเครื่องการผลิตหลังสงกรานต์ ทำให้บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้น 100-200 ล้านบาท นอกจากนี้บริษัทยังอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรอีก 2-3 ราย เพื่อรวมทุนธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์ คาดว่าภายในปีนี้จะมีข้อสรุป 1-2 ราย