สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยวันนี้มีมูลค่าการซื้อขายรวม 85,594 ล้านบาท โดยประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดของวัน คือ พันธบัตร ธปท. มีมูลค่าการซื้อขาย 77,653 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 91% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้
สำหรับประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายเป็นลำดับถัดมาคือ พันธบัตรรัฐบาล มีมูลค่า 5,739 ล้านบาท โดยพันธบัตรรัฐบาลรุ่นอายุคงเหลือประมาณ 1 ปี และ 3 ปี (LB137A LB155A และLB15DA) เป็นที่นิยมซื้อขายสูงสุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 2,808 ล้านบาท หรือคิดเป็น 49% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน มีมูลค่าการซื้อขายรวม 2,027 ล้านบาท โดยหุ้นกู้ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรก คือ หุ้นกู้ของ บริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จำกัด (มหาชน) (AYCAL145A) หุ้นกู้ของบริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน)(HMPRO131A) และหุ้นกู้บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) (MBK137A) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 852 ล้านบาท หรือคิดเป็น 42% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมด
นักลงทุนกลุ่มกองทุนมีสถานะซื้อสุทธิ 14,358 ล้านบาท นักลงทุนกลุ่มสถาบันการเงินที่ไม่มีใบอนุญาตค้าตราสารหนี้ มีสถานะซื้อสุทธิ 2,681 ล้านบาท และกลุ่มของนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะซื้อสุทธิ 4,809 ล้านบาท
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Yield) ยังคงค่อนข้างคงที่ในทุกช่วงอายุของตราสาร โดยภาพรวมของตลาดตราสารหนี้ในวันนี้ การซื้อขายกระจุกตัวอยู่ที่พันธบัตรของธนาคารแห่งประเทศไทยที่มีการประมูลในวันนี้ โดยตลาดคาดการณ์ว่าจะมีความต้องการ (Demand) ในพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ที่จะมีการประมูลในวันพรุ่งนี้ เนื่องจากอัตราผลตอบแทนได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาในระดับหนึ่งตั้งแต่ต้นปี
ทั้งนี้อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอายุคงเหลือ 3 เดือน ปิดคงที่ที่ 3.02% และอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอายุคงเหลือ 5 ปี ปิดคงที่ที่ 3.18%