บมจ.บางจากปิโตรเลียม(BCP) เตรียมทุ่มเงินลงทุน 1 หมื่นล้านบาทในปีนี้เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพโรงกลั่นน้ำมันและสร้างสถานีบริหารน้ำมันเพิ่ม โดยประเมินค่าการกลั่นเฉลี่ยในปีนี้อยู่ในระดับ 7 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ภายใต้กำลังการกลั่นที่ 9.6 แสนบาร์เรล/วัน ขณะที่บริษัทมีแผนจะหยุดซ่อมบำรุงโรงกลั่นในเดือน พ.ค.55
นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ BCP กล่าวว่า บริษัททตั้งเป้า EBITDA (ไม่รวม stock gain) ปี 55 เพิ่มขึ้นเป็น 7 พันล้านบาท จากปีก่อน 6 พันล้านบาท ซึ่งเป็นการเติบโตตามยอดขายที่ในปีนี้คาดว่าจะมียอดขายเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 370 ล้านลิตร/เดือน หรือเติบโต 10% จากปีก่อนอยู่ที่ 350 ล้านลิตร/เดือน
ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้า EBITDA เพิ่มขึ้นเป็น 1.2 หมื่นล้านบาทภายในปี 58 และเพิ่มเป็นมากกว่า 2 หมื่นล้านบาทภายในปี 63
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปีนี้ นายอนุสรณ์ กล่าวว่า บริษัทเตรียมทุ่มงบลงทุนกว่า 1 หมื่นล้านบาทเพื่อใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพโรงกลั่นน้ำมัน โดยจะมีการปรับปรุงและพัฒนาในโครงการ 3E ประกอบไปด้วย หน่วยปรับปรุงคุณภาพน้ำมันเบนซินและแก๊สโซฮอล์, โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม, หน่วยปรับปรุงคุณภาพน้ำมันเตา พร้อมทั้งจัดให้มีระบบบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม ระดับ 5 ดาว ใช้เงินลงทุน 8 พันล้านบาท
ธุรกิจโรงกลั่นในปี 55 แม้ราคาน้ำมันจะมีความผันผวน แต่บริษัทได้มีการบริหารความเสี่ยงไว้อย่างครบถ้วน โดยคาดว่าในปีนี้จะค่าการกลั่นเฉลี่ย 7 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่กำลังการกลั่นเฉลี่ยจะเติบโต 10% เป็น 9.6 หมื่นบาร์เรล/วัน โดยบริษัทจะมีการหยุดซ่อมบำรุงโรงกลั่นประมาณ 30 วันในเดือนพ.ค.นี้
ทางด้านธุรกิจการตลาดในปีนี้มีแผนจะลงทุนรวม 2 พันล้านบาท โดยบริษัทตั้งเป้ามีส่วนแบ่งการตลาดสถานีบริการน้ำมันเป็นอันดับ 2 ซึ่งจะเน้นขยายสถานีบริการขนาดใหญ่ที่ทันสมัย ในรูปแบบ "กรีน สเตชั่น" พร้อมทั้งจะขยายสถานีบริการจำหน่ายพลังงานทดแทน E20 เพิ่มเป็น 600 แห่ง และ E85 เพิ่มเป็น 50 แห่ง ภายในปีนี้ พร้อมทั้ง มีแผนร่วมทุนกับบริษัทค้าปลีกขนาดใหญ่เปิดร้านสะดวกซื้อภายในสถานบริการน้ำมันบางจาก เบื้องต้นคาดว่าจะได้ข้อสรุปต้นเดือนหน้า
"ตอนี้เรากำลังคุยกับโมเดินน์เทรดยักษ์ใหญ่หลายรายถึงแผนการร่วมทุนเปิดร้านสะดวกซื้อในปั๊ม ก็อยากใช้ประสบการณ์ของผู้เชี่ยวชาญมาพัฒนาธุรกิจ คาดว่าต้นเดือนหน้าน่าจะได้ข้อสรุป และน่าจะเริ่มเปิดได้ 6-7 ปั๊ม เบื้องต้นให้เช่าพื้นที่และแชร์ผลประโยชน์กัน และเพื่อเป็นการรองรับ AEC เราก็มีแผนขยายการลงทุนเปิดปั๊มในแถบประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งในปีนี้หวังเปิด 1 ปั๊ม อาจเป็นที่ลาว" นายอนุสรณ์ กล่าว
นายอนุสรณ์ กล่าวว่า โรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์หรือโซลาร์ฟาร์มเฟส 1 ที่ถูกน้ำท่วม คาดว่าจะกลับมาจ่ายกระแสไฟฟ้าได้ภายในเดือน มิ.ย. นี้ ส่วนการก่อสร้างเฟส 2 กำลังการผลิตรวม 50 เมกะวัตต์จะแล้วเสร็จในปี 56 ส่วนเฟส 3 กำลังผลิตรวม 75 เมกะวัตต์ คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จภายในปี 57 โดยขณะนี้อยู่ระหว่างหาพื้นที่ใหม่จากเดิมที่มีแผนจะก่อสร้างที่จ.สระบุรี แต่เกิดน้ำท่วม
ทั้งนี้ หากสร้างเสร็จทั้ง 3 เฟส จะทำให้บริษัทมีรายได้เข้ามาเพิ่มขึ้นปีละ 2.8 พันล้านบาท โดยในระยะยาวบริษัทมีแผนลงทุนโซลาฟาร์มเพิ่มเป็น 500 เมกะวัตต์ แต่ต้องขึ้นกับนโยบายพลังงานของทางภาครัฐด้วย
นอกจากนี้ บริษัทมีโครงการเพิ่มวัตถุดิบในการผลิตไบโอดีเซล โดยเตรียมขยายพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมันที่รังสิตเพิ่มเป็น 4.5 พันไร่ เพื่อรองรับการขยายกำลังการผลิตไบโอดีเซล B100 จาก 3 แสนลิตร/วัน เป็น 4 แสนลิตร/วัน
นายอนุสรณ์ กล่าวถึงภาพรวมปริมาณการใช้น้ำมันโลกปีนี้ คาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้น 9 แสนบาร์เรล/วัน เป็น 89.9 ล้านบาร์เรล/วัน ความต้องการใช้ส่วนใหญ่มาจากจีน อินเดีย ขณะที่สหรัฐฯทรงตัว ส่วนยุโรปคาดว่าจะปรับตัวลดลง ขณะที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปี้คาดว่าจะทรงตัวในระดับสูง จากเหตุการณ์ความตึงเครียดในอิหร่าน ซึ่งทำให้ราคาน้ำมันปลายปี 54 - ปัจจุบันปรับขึ้นไปแล้ว 10-15 เหรียญฯ แต่ประเมินว่าหากเหตุการณ์ยังทรงตัวในระดับนี้ ราคาน้ำมันจะปรับเพิ่มขึ้นอีก 10-20 เหรียญฯ ในช่วงที่เหลือปีนี้ โดยราคาน้ำมันเบรนท์น่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 130 เหรียญ/บาร์เรล แต่หากเกิดรุนแรงจนถึงขั้นสงคราม ราคาน้ำมันคงจะดีดขี้นอีก 30-40 เหรียญ/บาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบดูไบคาดว่าทั้งปีเฉลี่ยอยู่ที่ 113 เหรียญ/บาร์เรล