บมจ.อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ วิศวการ(IFEC)เปิดเผยว่า จากการขายเงินลงทุนในบริษัท ไอเฟค กรีน เพาเวอร์ พลัส จำกัด คิดเป็นมูลค่า 230 ล้านบาท บริษัทจะรับรู้กำไรจากการขายเงินลงทุนจำนวน 94 ล้านบาทในไตรมาสแรกของปีนี้
นายณรงค์ เตชะไชยวงศ์ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร IFEC กล่าวว่า ผลประกอบการงวด 1 ปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2554 ว่า บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการ 614.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.64 ล้านบาท หรือ 4.71% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยมีกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 33.57 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 12.09% เมื่อเทียบกับปีก่อน ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 75.29 ล้านบาท ลดลง 25.68 ล้านบาทหรือ 25.42%
“ผลการดำเนินงานปี 2554 มีรายได้จากการขายและบริการ รวมทั้งกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แต่การที่กำไรสุทธิลดลงนั้น มีปัจจัยหลักมาจากเมื่อปีที่แล้ว บริษัทฯ มีรายได้จากการโอนกลับค่าเผื่อการด้อยค่าทรัพย์สินที่ไม่ได้ใช้ในการดำเนินงานจำนวน 20.88 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯ บันทึกเป็นรายได้อื่นๆ ในปีที่แล้ว แต่ปีนี้ไม่ได้มีรายได้ในส่วนนี้ รวมถึงการที่บริษัทฯ มีภาระภาษีเพิ่มขึ้นจากอัตรา 25% เป็น 30% อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาจากผลการดำเนินงานปกติแล้ว ยังถือว่าบริษัทฯ มีการเติบโตที่น่าพอใจ" นายณรงค์กล่าว
แม้ว่าในปี 54 ภาพรวมของเศรษฐกิจอาจจะประสบปัญหา โดยเฉพาะในช่วงปลายปีที่เกิดเหตุอุทกภัยครั้งใหญ่ แต่บริษัทฯ ก็ยังคงเดินหน้าทำธุรกิจได้เป็นอย่างดีและมีผลการดำเนินงานเป็นที่น่าพอใจ ซึ่งส่วนหนึ่งนอกจากจะมีปัจจัยสนับสนุนมาจากการกิจกรรมการส่งเสริมการขาย รวมถึงการพัฒนาเทคโนโลยีของสินค้าในรูปแบบใหม่ที่รองรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภค จนทำให้เครื่องดิจิทัล มัลติฟังก์ชั่นของบริษัทฯ ได้รับความไว้วางใจและยอมรับจากลูกค้าแล้ว เหตุการณ์น้ำท่วมที่ส่งผลกระทบกับนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งมีผู้ประกอบการอุตสาหกรรมต่างๆ อยู่ในนิคมฯเป็นจำนวนมากนั้น ทำให้ผู้ประกอบการเหล่านี้จำเป็นต้องลงทุนด้านอุปกรณ์สำนักงานใหม่ทั้งหมด ซึ่งปัจจัยดังกล่าวได้ส่งผลดีต่อยอดขายสินค้าของบริษัทฯ
นอกจากนี้ การนำเสนอระบบ OPS หรือ Optimised Print Service จาก Konica Minolta ยังถือเป็นจุดเด่นสำคัญที่ทำให้ยอดขายเครื่องดิจิทัล มัลติฟังก์ชั่นของบริษัทฯ ประสบความสำเร็จอย่างมาก เนื่องจากระบบดังกล่าวเป็นการนำเสนอภาพรวมของการบริหารจัดการงานพิมพ์เอกสารให้กับองค์กร ที่สามารถลดค่าใช้จ่ายการพิมพ์เอกสารลงได้ถึง 20-40% โดยยังคงประสิทธิภาพในการบริหารจัดการด้านเอกสารภายในองค์กร และลดการลงทุนในอุปกรณ์สำนักงานอีกด้วย สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าในปัจจุบันที่ต้องการลดค่าใช้จ่ายให้มากที่สุด
ในส่วนของบริการหลังการขาย บริษัทฯ ได้ส่งทีมผู้เชี่ยวชาญเข้าไปสำรวจและให้คำปรึกษาเกี่ยวกับระบบ OPS แก่กลุ่มผู้ประกอบการ ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่การวิเคราะห์การใช้เอกสารทั้งในปัจจุบันและแผนการใช้เอกสารในอนาคต เพื่อออกแบบ Hardware, Software กระบวนการทำงาน การบำรุงรักษา การสำรองวัตถุดิบ สำหรับการจัดการเอกสารทั้งระบบอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมุ่งเน้นที่ธุรกิจขนาดกลางและขนาดใหญ่ที่ใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์มากกว่า 100 เครื่อง