นายพันธ์เทพ จำรัสโรมรัน ประธานกรรมการ บมจ.ทีโอที(TOT) เปิดเผยว่า ที่ประชุมบอร์ดเมื่อวันที่ 20 ก.พ.ที่ผ่านมามีมติให้ปรับแผนการดำเนินการโครงการขยายโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G ทั่วประเทศมูลค่า 1.6 หมื่นล้านบาทใหม่ โดยใช้แผนฉุกเฉิน คือ จะเร่งเจรจากับผู้ให้บริการมือถือทุกราย ได้แก่ บมจ.กสท โทรคมนาคม(CAT), บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น(DTAC), บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น(TRUE) เพื่อขอใช้เสาสถานีฐานร่วม(Co site) จากเดิมที่จะร่วมมือกับ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส(ADVANC) เพียงรายเดียว
สาเหตุที่ทีโอทีต้องเจรจาเพื่อขอใช้สถานีฐานร่วมกับผู้ให้บริการมือถือนั้น เนื่องจากที่ประชุมฯ มีความกังวลว่าการเปิดให้บริการทั้งหมด 5,320 แห่งทั่วประเทศ อาจเสร็จไม่ทันภายในเดือน พ.ค.55 ตามที่กำหนดไว้ หลังจากบริษัท ยูเทล ผู้ดำเนินการติดตั้งภายในอาคารไม่สามารถหาสถานที่ติดตั้งได้รวม 400 แห่ง ส่งผลให้การดำเนินการไม่เป็นไปตามแผนและติดตั้งได้เพียง 1,980 แห่งเท่านั้นจากเดิมที่ต้องติดตั้งได้ 3,000 แห่งในสิ้นเดือน ก.พ.นี้
นอกจากนี้ ในส่วนของเงื่อนไข MVNO ภายใต้การดำเนินงานของบอร์ดชุดนี้เสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยจะใช้การเจรจาไม่ใช่การประมูล เพราะการทำตลาดแบบ MVNO มีหลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบพันธมิตร(Strategic partner) ที่ควรได้รับเงื่อนไขที่ดีในส่วนของราคาและข้อเสนออื่นๆ จากความร่วมมือกับทีโอที หรือแบบที่เป็นตัวแทนขายเลขหมายอย่างเดียว ขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละราย จึงเหมาะที่จะเจรจาเป็นรายๆ มากกว่าวิธีการประมูล
ทั้งนี้ ที่ประชุมฯ ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการจัดซื้อซิมการ์ดด้วยวิธีพิเศษจากบริษัท เทล การ์ด หลังจากมีกระข่าวเรื่องความไม่โปร่งใส และเอื้อประโยชน์ให้พวกพ้องสำหรับโครงการนี้ อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าเรื่องดังกล่าวจะเกิดขึ้นก่อนที่บอร์ดชุดนี้จะเข้ามาทำหน้าที่ แต่หากตรวจสอบพบว่ามีความผิดก็ต้องดำเนินการทันที คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายใน 1 เดือน
ทั้งนี้ ที่ประชุมฯ ได้แต่งตั้งกรรมการเพิ่มอีก 1 คน โดยกระทรวงการคลังเป็นผู้เสนอรายชื่อ อีกทั้งยังแต่งตั้งนางจันทิมา สิริแสงทักษิณ ที่ปรึกษาบอร์ดทีโอที ทำหน้าที่ตรวจสอบเรื่องระบบจัดพิมพ์ใบแจ้งหนี้และจัดเก็บค่าบริการ(บิลลิ่ง) ของทีโอทีทั้งหมด เนื่องจากที่ผ่านมาระบบดังกล่าวมีปัญหามานาน และตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง 3G หลังจากเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ได้ทำหนังสือแจ้งมายังทีโอทีให้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าว
ขณะที่การสรรหากรรมการผู้จัดการใหญ่แทนนายอานนท์ ทับเที่ยง ที่มีผลอย่างเป็นทางการวันที่ 24 ก.พ.นี้ ที่ประชุมฯ จะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด เพื่อไม่ให้การดำเนินการในส่วนของฝ่ายบริหารมีปัญหาเกิดขึ้น