สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยวันนี้มีมูลค่าการซื้อขายรวม 79,557 ล้านบาท โดยประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดของวัน คือ พันธบัตร ธปท. มีมูลค่าการซื้อขาย 60,086 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 76% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้
สำหรับประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายเป็นลำดับถัดมาคือ พันธบัตรรัฐบาล มีมูลค่า 15,839 ล้านบาท โดยพันธบัตรรัฐบาลรุ่นอายุคงเหลือประมาณ 1 ปี และ 3 ปี (LB133A LB137A และLB155A) เป็นที่นิยมซื้อขายสูงสุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 9,649 ล้านบาท หรือคิดเป็น 61% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน มีมูลค่าการซื้อขายรวม 1,176 ล้านบาท โดยหุ้นกู้ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรก คือ หุ้นกู้ของ บริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จำกัด (มหาชน) (AYCAL12OA) หุ้นกู้ของ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) (SCC124A) และหุ้นกู้ของ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (PTTC18NA) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 558 ล้านบาท หรือคิดเป็น 47% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมด
นักลงทุนกลุ่มกองทุนมีสถานะซื้อสุทธิ 8,785 ล้านบาท นักลงทุนกลุ่มบริษัทจดทะเบียนในประเทศมีสถานะซื้อสุทธิ 1,359 ล้านบาท และกลุ่มของนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะซื้อสุทธิ 7,506 ล้านบาท
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Yield) ปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย หรือโดยเฉลี่ยแล้วปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วง 1 ถึง 4 Basis Point โดยพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุ 14 วัน ที่จะมีการประมูลในวันพรุ่งนี้ ตลาดคาดการณ์ว่าจะมีอุปสงค์ (Demand) ค่อนข้างมากจากการซื้อเพื่อทำกำไรของนักลงทุน
ทั้งนี้อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอายุคงเหลือ 3 เดือน ปิดที่ 3.02% ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.01% และอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอายุคงเหลือ 5 ปี ปิดที่ 3.25% ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.03% จากวันก่อนหน้า