ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดบวก 46.02 จุดรับข้อมูลศก.สหรัฐ,เยอรมนี

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday February 24, 2012 06:31 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (23 ก.พ.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยจำนวนคนว่างานรายสัปดาห์ที่ยังคงเคลื่อนไหวที่ระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปี ซึ่งบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของตลาดแรงงานภายในประเทศ นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมนีที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นติดต่อกัน 4 เดือน ซึ่งข้อมูลเหล่านี้สามารถชดเชยปัจจัยลบจากผลประกอบการที่ย่ำแย่ของกลุ่มบริษัทค้าปลีกสหรัฐ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 46.02 จุด หรือ 0.36% ปิดที่ 12,984.69 จุด ดัชนี S&P 500 ดีดขึ้น 5.80 จุด หรือ 0.43% ปิดที่ 1,363.46 จุด และดัชนี Nasdaq พุ่งขึ้น 23.81 จุด หรือ 0.81% ปิดที่ 2,956.98 จุด

ในช่วงเช้าตามเวลานิวยอร์กวานนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงหลังจากบริษัทค้าปลีกรายใหญ่หลายแห่งของสหรัฐเปิดเผยผลประกอบการที่อ่อนแอ รวมถึงวอล์-มาร์ท, เซฟท์เวย์ อิงค์, โคห์ล อิงค์ และเซียร์ส โฮลดิงส์ ซึ่งเป็นผู้บริหารห้างสรรพสินค้าเซียร์ส, เคมาร์ท และแลนด์สเอ็นด์

แต่หลังจากนั้นไม่นาน ตลาดก็เริ่มดีดตัวขึ้นขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐและเยอรมนี โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 18 ก.พ. ทรงตัวอยู่ที่ระดับ 351,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปี ขณะที่สถาบัน Ifo เปิดเผยว่า ดัชนีความชื่อมั่นธุรกิจดีดขึ้นสู่ระดับ 109.6 จุด จากระดับ 108.3 จุดในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับที่สูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2554 และเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4

ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐและเยอรมนีสามารถบรรเทาปัจจัยลบจากผลประกอบการที่อ่อนแอของบริษัทค้าปลีกสหรัฐ และจากการที่สหภาพยุโรป (อียู) คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจยุโรปจะหดตัวลงราว 0.3% ในปี 2555 ตรงข้ามกับที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะขยายตัว 0.5% เนื่องจากอิตาลีและสเปนมีแนวโน้มว่าจะเผชิญกับภาวะขาดตึงตัวด้านการเงินอย่างฉับพลัน ในขณะที่ทั้งสองประเทศต้องดิ้นรนในการหลีกเลี่ยงกับการผิดนัดชำระหนี้

นักลงทุนยังคงจับตาดูความคืบหน้าเรื่องการให้ความช่วยเหลือกรีซรอบที่ 2 หลังจากรัฐสภากรีซให้ความเห็นชอบร่างกฎหมายที่จะนำไปสู่การเริ่มดำเนินการสว็อปหนี้สำหรับผู้ถือพันธบัตรในภาคเอกชนเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย ซึ่งความคืบหน้าดังกล่าวช่วยลดแรงกดดันจากข่าวที่ว่า ฟิทช์ เรทติงส์ ประกาศปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของกรีซจาก "CCC" สู่ระดับ "C" โดยฟิทช์ระบุในแถลงการณ์ว่าในขณะนี้ฟิทช์มองว่าการผิดนัดชำระหนี้ของกรีซ “มีความเป็นไปได้สูงในระยะใกล้นี้"

หุ้นฮิวเล็ตต์-แพคการ์ด ร่วงลง 6.5% หลังจากเปิดเผยแนวโน้มผลกำไรที่น่าผิดหวังและยอดขายปรับตัวลง 7% ขณะที่หุ้นโคล์ห ซึ่งเป็นผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้า ดิ่งลง 6% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรหดตัวลง 8% ในไตรมาส 4 อันเนื่องมาจากยอดขายที่ปรับตัวลดลง ส่วนหุ้นเซฟท์เวย์ ดิ่งลงกว่า 7% หลังจากกำไรของบริษัทร่วงลง 6%

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ โดยรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้ายเดือนก.พ.ในเวลา 21.55 น.ตามเวลาไทย และกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยยอดขายบ้านใหม่เดือนม.ค.ในเวลา 22.00 น.ตามเวลาไทย

นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.พ.ของสหรัฐจะอยู่ที่ 73.0 จุด และคาดว่ายอดขายบ้านใหม่เดือนม.ค.ของสหรัฐจะอยู่ที่ 0.315 ล้านยูนิตในเดือนม.ค. เพิ่มขึ้นจาก 0.307 ล้านยูนิตในเดือนธ.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ