น.ส.ภัทรดา สง่าแสง ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์องค์กร บมจ.ไทยอยยล์ (TOP) คาดว่า ในปี 55 บริษัทจะมีค่าการกลั่น (GRM) จะดีกว่าปีก่อนที่อยู่ที่ 4.4 เหรียญ/บาร์เรล และ ค่าการกลั่นรวม(GIM) ในปีนี้ คาดว่าจะไม่ต่ำกว่าปีก่อน ที่ 7.8 เหรียญ/บาร์เรล เนื่องจากราคาน้ำมันยังอยู่ในขาขึ้น จากปัญหาความตึงเครียดในอิหร่านซึ่งถือเป็นปัจจัยหลัก และมองว่าปีนี้ราคาน้ำมันดิบดูไบ เฉลี่ยที่ 108-110 เหรียญ/บาร์เรล จากปัจจุบันมีราคา 120 เหรียญ/บาร์เรล
ทั้งนี้ แนวโน้มผลประกอบการของบริษัทในปีนี้มั่นใจจะสดใส เพราะตลาดมีทิศทางที่ดี ปัจจัยพื้นฐานน้ำมันดิบสมดุล
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่จะกดดันราคาน้ำมันดิบมีอยู่ 2 ประเด็น เรื่องความตึงเครียดในอิหร่าน ซึ่งเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ และวิกฤตหนี้ยุโรปซึ่งน่าจะผ่านพ้นไปให้ได้แต่ยังต้องใช้เวลา
น.ส.ภัทรดา กล่าวว่า บริษัทเปิดโอกาสเข้าซื้อกิจการโรงกลั่นทั้งในและต่างประเทศ โดยมีเงื่อนไขการเข้าซื้อโรงกลั่นจะทำให้ธุรกิจ TOP ได้ประโยชน์เพิ่มเติมและสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้บริษัทและผู้ถือหุ้น ซึ่งที่ผ่านมาจากปัญหาหนี้ยุโรป มีความเป็นไปได้สูงที่จะมีโรงกลั่นปิดตัวไป ซึ่งมองว่าเป็นโอกาสหนึ่งที่บริษัทจะเข้าซื้อกิจการโรงกลั่น