ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดลบ 1.74 จุด หวั่นน้ำมันพุ่งกระทบศก.

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday February 25, 2012 06:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (24 ก.พ.) ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน หลังจากสหรัฐเปิดเผยยอดขายบ้านใหม่ที่ร่วงลงเกินคาดในเดือนม.ค. นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกกังวลว่าการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันดิบอาจจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม ดัชนีดาวโจนส์ขยับลงเพียงเล็กน้อย ในขณะที่ S&P 500 และ Nasdaq ปิดในแดนบวก เนื่องจากตลาดได้รับแรงหนุนในระหว่างวัน จากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 ปี

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ขยับลง 1.74 จุด หรือ 0.01% ปิดที่ 12,982.95 จุด ดัชนี S&P 500 ดีดขึ้น 2.28 จุด หรือ 0.17% ปิดที่ 1,365.74 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 6.77 จุด หรือ 0.23% ปิดที่ 2,963.75 จุด

ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นในช่วงแรก หลังจากรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้ายเดือนก.พ.ปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 ปีที่ 75.3 จากระดับ 75.0 ในเดือนม.ค. เนื่องจากผู้บริโภคเริ่มมีความเชื่อมั่นต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

แต่ดาวโจนส์ปรับตัวลงในช่วงบ่ายตามเวลานิวยอร์ก หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขายบ้านใหม่เดือนม.ค.ร่วงลง 0.9% แตะที่ 321,000 ยูนิตต่อปี นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลที่ว่า ราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องในขณะนี้ อาจจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และอาจจะส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นกลุ่มขนส่งและกลุ่มอุปโภคบริโภคด้วย

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันดิบกลายมาเป็นประเด็นที่น่าลงทุนจับตาดูอย่างใกล้ชิด หลังจากราคาทะยานขึ้นไปแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2554 และพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องในวันศุกร์ ภายหลังจากที่คณะผู้ตรวจสอบของสำนักงานพลังงานปรมาณูสากล (IAEA) รายงานว่า อิหร่านกำลังเพิ่มขีดความสามารถในการเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียม

หุ้นอเมริกัน อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป (AIG) พุ่งขึ้น 1.5% หลังจาก AIG เปิดเผยกำไรสุทธิ 1.98 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในไตรมาส 4 ปี 2554 หรือพุ่งขึ้น 77% เมื่อเทียบปีต่อปี และสำหรับทั้งปี 2554 มีกำไร 1.78 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นกว่าสองเท่าจากระดับ 7.8 พันล้านดอลลาร์ในปี 2553

หุ้นเซียร์ส โฮลดิ้งส์ ซึ่งเป็นผู้บริหารห้างสรรพสินค้าเซียร์ส, เคมาร์ท และแลนด์สเอ็นด์ พุ่งขึ้น 11% หลังจากบริษัทประกาศแผนเพิ่มยอดขายมูลค่า 770 ล้านดอลลาร์ในห้าง 11 สาขาทั่วสหรัฐ

หุ้นกลุ่มขนส่งร่วงลง นำโดยหุ้นเฟ็ดเอ็กซ์ซึ่งปรับตัวลง 1.9% เพราะได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ส่วนหุ้นในกลุ่มธนาคานั้น หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา และหุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ร่วงลงกว่า 1.5%

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงประจำไตรมาส 4/2011 ในวันพุธที่ 29 ก.พ.เวลา 20.30 น.ตามเวลาไทย ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า จีดีพีจะขยายตัว 2.8% ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากการประมาณการครั้งแรก

นอกจากนี้ สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) จะเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตเดือนก.พ.ในวันพฤหัสบดีที่ 1 มี.ค.เวลา 22.00 น.ตามเวลาไทย ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าดัชนี ISM ภาคการผลิตจะอยู่ที่ 55.0 ในเดือนก.พ. เพิ่มขึ้นจาก 54.1 ในเดือนม.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ