ภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยประจำสัปดาห์: มีมูลค่าการซื้อขายรวม 374,104 ลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday February 27, 2012 17:22 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ประจำสัปดาห์ (20 — 24 กุมภาพันธ์ 2555) ปริมาณการซื้อขายตราสารหนี้มีมูลค่ารวม 374,104 ล้านบาท หรือเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณวันละ 74,821 ล้านบาท ลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้านี้ประมาณ 4% ทั้งนี้เมื่อแยกตามประเภทของตราสารแล้วจะพบว่ากว่า 84% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด หรือประมาณ 314,154 ล้านบาท เป็นการซื้อขายในตราสารหนี้ที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (State Agency Bond) ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นตราสารที่มีอายุคงเหลือค่อนข้างน้อย (ไม่เกิน 6 เดือน) ในขณะที่พันธบัตรรัฐบาลที่ออกโดยกระทรวงการคลัง (Government Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 51,107 ล้านบาท และหุ้นกู้ที่ออกโดยภาคเอกชน (Corporate Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 5,814 ล้านบาท หรือคิดเป็น 14% และ 2% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้น ตามลำดับ

สำหรับพันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรกคือ รุ่น LB155A (อายุ 3.3 ปี), LB133A (อายุ 1 ปี) และ LB15DA (อายุ 3.8 ปี) มีมูลค่าการซื้อขายในแต่ละรุ่นเท่ากับ 13,714 ล้านบาท 8,267 ล้านบาท และ 4,964 ล้านบาท ตามลำดับ ส่วนพันธบัตรที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย รุ่นที่มีปริมาณการซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรก คือรุ่น CB12313A (อายุ 14 วัน), CB12322C (อายุ 28 วัน) และ CB12306A (อายุ 14 วัน) มูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 83,057 ล้านบาท 33,248 ล้านบาท และ 28,762 ล้านบาท ตามลำดับ

ทางด้านหุ้นกู้ภาคเอกชน ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรกนั้น ได้แก่ หุ้นกู้ของบริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) (MBK137A (A)) มูลค่าการซื้อขาย 608 ล้านบาท หุ้นกู้ของบริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จำกัด (มหาชน) (AYCAL145A (A+)) มูลค่าการซื้อขาย 518 ล้านบาท และหุ้นกู้ของบริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (KTC128A (BBB+)) มูลค่าการซื้อขาย 409 ล้านบาท

เส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Yield Curve) ปรับตัวอยู่ในกรอบแคบๆ หรือโดยเฉลี่ยแล้วเคลื่อนไหวขึ้นลงอยู่ในช่วง-1 ถึง 7 Basis Point (100 Basis point มีค่าเท่ากับ 1%) ซึ่งภาพรวมของตลาดตราสารหนี้ในสัปดาห์ที่ผ่านมา มูลค่าการซื้อขายปรับตัวลดลงต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อนหน้า ประกอบกับยังไม่มีข่าวคราวใหม่ๆที่จะเข้ามากระตุ้นตลาดในช่วงนี้ จึงส่งผลทำให้การซื้อขายตราสารหนี้ในตลาดค่อนข้างซบเซาลงไปเมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้านั้น ทางด้านสถานการณ์ในต่างประเทศ ที่ถึงแม้ว่า Fitch จะทำการปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศกรีซลงอีก 2 ขั้น จาก CCC สู่ระดับ C และมีความเสี่ยงที่จะปรับอันดับลงสู่ Junk Bond ได้อีกในอนาคต แต่อย่างไรก็ตาม กระแสข่าวของการพบปะเพื่อหารือกันระหว่างญี่ปุ่นและจีน เกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรป (EU) ก็ช่วยทำให้ภาวะการลงทุนในตลาดเงินตลาดทุนของประเทศต่างๆทั่วโลกปรับตัวดีขึ้นเช่นกัน

ทั้งนี้ ในสัปดาห์ที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติมียอด ซื้อสุทธิ 37,612 ล้านบาทในตลาดตราสารหนี้ โดยที่มูลค่าการซื้อขายส่วนใหญ่ของนักลงทุนกลุ่มนี้ยังคงเน้นไปในตราสารระยะสั้น (มีอายุคงเหลือน้อยกว่า 1 ปี) เป็นหลัก จึงไม่ได้ส่งผลต่อภาพรวมของการซื้อขายตราสารหนี้ในตลาดมากเท่าใดนัก และสำหรับนักลงทุนรายย่อย ที่ถึงแม้จะมีสัดส่วนของการซื้อขายตราสารหนี้ในตลาดค่อนข้างน้อย แต่ในสัปดาห์ที่ผ่านมายังคงมียอดซื้อสุทธิอย่างต่อเนื่องประมาณ 1,194 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ