ก.ล.ต.แก้ไขเกณฑ์หนุนเอกชนระดมเงินผ่านหุ้นกู้ เริ่ม 1 ก.ค.55

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday February 28, 2012 16:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ก.ล.ต. และคณะกรรมการกำกับตลาดทุนให้ความเห็นชอบในการปรับปรุงหลักเกณฑ์การกำกับดูแลตั๋วเงิน หุ้นกู้ระยะสั้น และหุ้นกู้ที่มีเงื่อนไขซับซ้อน เพื่อสนับสนุนให้ภาคธุรกิจหันมาระดมทุนด้วยการออกหุ้นกู้แทนตั๋วเงิน เนื่องจากที่ผ่านมาสถาบันการเงินมีการระดมทุนโดยการออกตั๋วเงินจำนวนมาก โดยอาจทำให้ประชาชนผู้ลงทุนเข้าใจผิดและคาดหวังการคุ้มครองเช่นเดียวกับเงินฝาก

ตั๋วเงินยังมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนที่สลักหลังโอนตั๋วอาจถูกไล่เบี้ยโดยผู้ซื้อในทอดต่อไป รวมทั้งมีลักษณะทางกฎหมายที่ไม่เหมาะกับการออกโดยมีอนุพันธ์แฝง ดังนั้นจึงควรได้รับการกำกับดูแลเพื่อคุ้มครองผู้ลงทุน และเพื่อเป็นการสร้างทางเลือกในการระดมทุนให้แก่ภาคธุรกิจแทนการออกตั๋วเงิน ก.ล.ต. จึงปรับปรุงหลักเกณฑ์ในการออกและเสนอขายหุ้นกู้ระยะสั้นและหุ้นกู้ที่มีเงื่อนไขซับซ้อนให้มีความสะดวกและสามารถตอบสนองความต้องการของภาคธุรกิจได้ดียิ่งขึ้น มีผลตั้งแต่ 1 ก.ค.55

"ที่ผ่านมาพบว่ามีสถาบันการเงินออกบีอี เป็นมูลค่า 1.57 ล้านล้านบาทคิดเป็นเฉลี่ย 16.58% ของ funding source ถือว่าสุงมากเมื่อเทียบต่างประเทศที่อยู่ระดับเพียง 6% และยังพบว่า มีสถาบันการเงินบางแห่ง มีการระดมเงินโดยบีอี มากถึง 70% ของการระดมเงินอื่นๆ ในขณะที่ภาคเอกชนระดมเงินโดยการออกบีอีเพียง 3.2 แสนล้านบาท" นายวรพล กล่าว

ด้านนางทิพยสุดา ถาวรามร ผู้ช่วยเลขาธิการอาวุโส ก.ล.ต.กล่าวว่า หลักเกณฑ์การออกตั๋วเงินและหุ้นกู้ระยะสั้นที่ปรับปรุงแก้ไข ก.ล.ต.กำหนดให้ตั๋วเงินที่เสนอขายต่อประชาชนต้องมีมูลค่าหน้าตั๋วขั้นต่ำ 10 ล้านบาท(เว้นแต่เป็นตั๋วเงินที่ระดมทุนในวงแคบ คือ มีจำนวนคงค้างไม่เกิน 10 ฉบับ ณ ขณะใดขณะหนึ่ง)และต้องมีคำเตือนว่าไม่ได้รับความคุ้มครองจากสถาบันคุ้มครองเงินฝาก และเพื่อจำกัดความเสี่ยงให้กับผู้ลงทุน จึงกำหนดให้ตั๋วเงินต้องมีเงื่อนไขห้ามเปลี่ยนมือหรือหากจะไม่กำหนดเงื่อนไขดังกล่าวก็ต้องมีข้อความที่จำกัดความรับผิดของผู้โอน

นอกจากนี้ตั๋วเงินที่เป็นหลักทรัพย์ต้องไม่มีอนุพันธ์แฝง รวมทั้งให้เสนอขายผ่านตัวกลางที่มีใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ ทั้งที่เป็นบริษัทหลักทรัพย์หรือสถาบันการเงิน เพื่อดูแลให้มีการเสนอขายสินค้าที่เหมาะกับผู้ลงทุน

นอกจากนี้ได้ผ่อนคลายหลักเกณฑ์เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ออกหุ้นกู้ระยะสั้นและตั๋วเงิน ให้สถาบันการเงินผู้ออกสามารถใช้งบการเงินตามมาตรฐานบัญชีและจัดส่งตามรอบระยะเวลาที่หน่วยงานกำกับดูแลหลักกำหนดได้ หากผู้ออกเป็นสาขาธนาคารต่างประเทศและไม่มีข้อจำกัดความรับผิดของธนาคารแม่ในต่างประเทศ สามารถใช้ผลการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารแม่ในต่างประเทศได้ และตั๋วเงินและหุ้นกู้ระยะสั้นที่ออกโดยสถาบันการเงินและบริษัททั่วไปไม่ต้องขึ้นทะเบียนกับสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย นอกจากนี้ ก.ล.ต. ยังอยู่ระหว่างดำเนินการผ่อนคลายหลักเกณฑ์อีกหลายเรื่อง ซึ่งจะทยอยประกาศให้ทราบต่อไป

พร้อมกันนี้ ก.ล.ต. ได้ออกหลักเกณฑ์รองรับการออกหุ้นกู้ที่มีเงื่อนไขซับซ้อนเพิ่มเติมจากหลักเกณฑ์การออกหุ้นกู้อนุพันธ์ที่มีอยู่ในปัจจุบัน โดยกำหนดกระบวนการและกรอบเวลาในการขออนุญาตรวมทั้งรูปแบบและเนื้อหาในการเปิดเผยข้อมูลที่กระชับ รวดเร็ว และสะดวกมากยิ่งขึ้น รวมทั้งมีลักษณะของตราสารและปัจจัยอ้างอิง ตลอดจนข้อจำกัดความเสี่ยงของตราสาร ครอบคลุมและสอดคล้องกับแนวปฏิบัติของสถาบันการเงินในปัจจุบัน

อย่างไรก็ตามการปรับปรุงหลักเกณฑ์ดังกล่าว ไม่ได้มีความเกี่ยวโยงหลังทางการจะมีการจัดเก็บค่าธรรมเนียมเงินฝาก 0.47% เพื่อนำไปชำระหนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน แต่เป็นการดำเนินการเนื่องจากธนาคารแห่งประเทศไทยมีความเป็นห่วงหลังพบว่ามีสถาบันการเงินมีการออกตั๋วเงินจำนวนมาก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ