นายกานต์ ตระกูลฮุน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย(SCC) คาดว่าจะสรุปโปรเจ็คต์ไฟแนนซ์โครงการปิโตรคอมเพล็กซ์ในเวียดนามราวไตรมาส 4/55 ถึงไตรมาส 1/56 ทั้งนี้โครงการขนาดใหญ่มูลค่าลงทุนถึง 4.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้การเจรจากู้ยืมเงินต้องใช้เวลา เพราะยังมีวิกฤตเศรษฐกิจยุโรป และญี่ปุ่นเพิ่งเริ่มฟื้นตัวจากเหตุการณ์สึนามิ แต่เชื่อว่าการก่อสร้างจะใช้เวลาเร็วกว่าปกติเนื่องจากเทคโนโลยีมีความพร้อมและบริษัทได้เตรียมความพร้อมไว้นานแล้ว หากมีข้อสรุปทางการเงินโครงการจะสามารถเดินหน้าได้อย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้บริษัทยังคงเน้นการลงทุนในภูมิภาคอาเซียนอย่างต่อเนื่องโดยเป็นฐานการลงทุนหลักซึ่งมีแผนก่อสร้างโรงปูนซีเมนต์ในประเทศพม่า ขนาดกำลังการผลิต 1.8-1.9 ล้านตันต่อปี ใช้เงินลงทุนไม่เกิน 1 หมื่นล้านบาท โดยสนใจพื้นที่ใกล้เคียงเมืองย่างกุ้งที่มีหินปูนสำหรับผลิตเพียงพอ และเชื่อว่าเมื่อพม่าเปิดประเทศและมีการลงทุนอย่างจริงจัง จะทำให้ภูมิภาคอาเซียนน่าสนใจในการลงทุนสำหรับประชาคมโลก ไทยก็ควรอาศัยข้อได้เปรียบดังล่าว เนื่องจากมีชายแดนติดประเทศพม่ากินบริเวณกว้าง
สำหรับการลงทุนในอาเซียน บริษัทยังมองการสร้างโรงปูนซีเมนต์ในประเทศอินโดนีเซีย คาดว่าจะสรุปความชัดเจนในการลงทุนได้ในปลายปี 55 ส่วนการลงทุนในฟิลิปปินส์บริษัทได้การเข้าซื้อหุ้นบริษัทร่วมทุนด้านวัสดุก่อสร้างเพิ่มเติมจากเดิมถืออยู่ราว 40% เพิ่มเป็นประมาณ 80% แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ แม้ว่าจะสรุปการเข้าซื้อหุ้นแล้วก็ตาม เนื่องจากเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยคาดว่าจะเปิดเผยได้ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 55
ส่วนกระแสข่าวที่ระบุว่า SCC สนใจเจรจาซื้อหุ้น บมจ.โฮมโปรดักส์ เซ็นเตอร์(HMPRO) นั้น นายกานต์ ปฏิเสธที่จะกล่าวถึงเรื่องนี้เนื่องจากผู้ที่เกี่ยวข้องต่างเป็นบริษิษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์