ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (28 ก.พ.) เพราะได้แรงหนุนจากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 ปี ซึ่งสามารถชดเชยข้อมูลเศรษฐกิจในด้านลบ รวมถึงยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนที่ร่วงลงอย่างหนัก
ดัชนี Stoxx Europe 600 Index ปรับตัวขึ้น 0.2% แตะที่ 264.33 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปรับตัวขึ้น 38.03 จุด หรือ 0.56% ปิดที่ 6,887.63 จุด ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสดีดขึ้น 12.54 จุด หรือ 0.36% ปิดที่ 3,453.99 จุด ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 12.36 จุด หรือ 0.21% ปิดที่ 5,927.91 จุด
คอนเฟอเรนซ์ บอร์ดรายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.พ.พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 ปีที่ 70.8 จุด จากระดับของเดือนม.ค.ที่ผ่านการทบทวนแล้วที่ระดับ 61.5 จุด ซึ่งข้อมูลดังกล่าวสามารถชดเชยปัจจัยลบจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ รวมถึงยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนที่ลดลง 0.4% ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยในเดือนม.ค. 2552
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่พุ่งขึ้นหลังจากราคาทองแดงขึ้นไปแตะจุดสูงสุดในรอบกว่า 2 สัปดาห์ นอกจากนี้ ราคาโลหะยังได้รับแรงหนุนจากการที่ยูโร/ดอลลาร์ทรงตัวอยู่ใกล้จุดสูงสุดในรอบ 3 เดือนด้วย
นักลงทุนจับตาดูธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ซึ่งจะปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำรอบ 2 ระยะ 3 ปีให้กับธนาคารพาณิชย์เพื่อช่วยหนุนสภาพคล่องในระบบการธนาคารของภูมิภาค ซึ่งนักวิเคราะห์คาดกันว่าอีซีบีจะจัดสรรสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการธนาคารในวงเงินราว 5 แสนล้านยูโร