นายสุภสิทธิ์ รักกสิกร กรรมการผู้จัดการ บริษัท สามารถมัลติมีเดีย จำกัด บริษัทในเครือ บมจ.สามารถ คอร์ปอเรชั่น (SAMART) เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทได้ตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ไว้ที่10-15% จากปีที่ผ่านมาที่มีรายได้หลังจากหักค่าใช้จ่ายให้กับผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่อยู่ที่ประมาณ 1,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม จากการเติบโตของการใช้งานของโซเชี่ยล มีเดีย จึงทำให้ปีนี้มีการพัฒนาคอนเทนต์จะมีหลากหลายและใหม่ๆ มากขึ้น เนื่องจากมีทั้ง 3จี บรอดแบรนด์ความเร็วสูง และสมาร์ทโฟน เป็นตัวขับเคลื่อนให้ผู้ใช้งานเกิดการใช้งาน
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการแข่งขันในเรื่องของคอนเทนต์นั้น ปีนี้มองว่าจะมีผู้เล่นในตลาดมาก และมีการพัฒนาคอนเทนต์ออกมาหลายรูปแบบ ซึ่งบริษัทเองก็พัฒนาคอนเทนต์ที่สนองต่อไลฟ์สไตล์ ด้วยการใช้งบลงทุนและพัฒนาประมาณ 30 ล้านบาท ในด้านบุคลากรและเครื่องมือ โดยปีนี้คาดว่าจะพัฒนาคอนเทนต์ใหม่ 20 ตัว จากปัจจุบันที่มีคอนเทนต์ประมาณ 7-8 ตัว อาทิหมอดู,กิน ดื่ม เที่ยว, BUG1113 เป็นต้น
สำหรับ นโยบายของรัฐบาลเกี่ยวกับโครงการแจกแท็บเล็ตสำหรับเด็กป.1นั้น บริษัทได้มีการพัฒนาคอนเทนต์เพื่อที่จะบรรจุเข้าไว้ในแท็บเล็ตเรียบร้อยแล้ว โดยรูปแบบจะไม่เข้าร่วมประมูลคอนเทนต์ แต่จะพัฒนาคอนเทนต์ที่เกี่ยวกับการพัฒนาการเรียนรู้ (Edutainment) มาต่อยอดให้เด็กสามารถดาวน์โหลดไปใช้งาน ซึ่งจะไม่ไปซ้ำกับคอนเทนท์ของรัฐบาลแน่นอน เพราะเชื่อว่าในส่วนของคอนเท้นท์ของรัฐบาลจะเน้นในเรื่องของการบรรจุเนื้อหาตามหลักสูตรการเรียนการสอน
นอกจากนี้กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.)ร่วมกับ สามารถมัลติมีเดีย และบมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซส คอมมูนิเคชั่น(DTAC) จัดทำแอพพลิเคชั่น"Traffic Police by dtac"บนสมาร์ทโฟน สามารถดูสภาพการจราจรได้แบบReal timeจากกล้องCCTVของบก.จร.และเนคเทค และยังดูคลิปวีดีโอจราจรตามเส้นทางต่างๆ การแชร์ข้อมูลสภาพการจราจรหรืออุบัติเหตุที่เกิดขึ้น และสามารถแชร์ข้อมูลต่างๆทางข้อความ หรือภาพผ่านสังคมออนไลน์ อย่างเฟชบุ๊ค ทวิตเตอร์ได้อย่างทันที แอพพลิเคชั่นนี้รองรับทั้ง iOS และAndroid สามารถดาวน์โหลดได้ฟรี ทั้งนี้ ปัจจุบันมียอดดาวโหลดแอพฯ ดังกล่าวแล้ว 4.3 หมื่น ตั้งเป้าเดือน พ.ค.จะมียอดดาวโหลดไว้ที่ 1 แสนดาวโหลด
“ตลาดรวมโทรศัพท์มือถือของปีที่ผ่านมามียอดขายอยู่ที่ 14 ล้านเครื่อง แบ่งเป็นสมาร์ทโฟน 3 ล้านเครื่อง โดยปี 2555 คาดการณ์ว่าจะมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 20% หรือมียอดขายอยู่ที่ 17 ล้านเครื่อง โดยสมาร์ทโฟนจะมีการเติบโตอยู่ที่ 20% หรือมียอดขายอยู่ที่ 5 ล้านเครื่อง ดังนั้นจึงเป็นโอกาศที่ดีที่บริษัทจะทำแอพพลิเคชั่นเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า" นายสุภสิทธิ์ กล่าว
นายสุภสิทธิ์ กล่าวว่า จากการเติบโตและการใช้งานนอนวอยซ์ โจทย์ที่ผู้ให้บริการจะต้องให้ความสำคัญคือ จะทำอย่างไรให้มีผู้ใช้งานแอพลิเคชั่น ที่ครอบคลุมทุกพื้นที่ และที่สำคัญราคาไม่แพง เพราะปัจจุบันการใช้งานมือถือที่มีแอพลิเคชั่นต่างๆ ที่เป็นอันลิมิเตท ก็ยังมีราคาที่สูงอยู่ ซึ่งจุดนี้ผู้ให้บริการจะต้องทำแผนการตลาดให้ได้ตรงใจลูกค้าให้ได้มากที่สุด