JMART-W1 ปิดเทรดวันแรกที่ 4.80 บาท มูลค่าซื้อขาย 5.54 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 5.25 บาท ราคาปรับขึ้นสูงสุดที่ 5.30 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 4.72 บาท
บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ประเมินมูลค่าใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบมจ.เจ มาร์ท(JMART)หรือ JMART-W1 ได้ที่ 4.08 บาท/หน่วย ณ ราคาหุ้นแม่ 7.75 บาท (28 ก.พ.)คิดเป็น All-in Premium ติดลบ 8.6%
JMART-W1 จำนวนที่ออก 60 ล้านหน่วย จัดสรรแก่ผู้ถือหุ้นเดิมในอัตราส่วน 5 : 1 ฟรี โดยมีอัตราใช้สิทธิ 1 : 1 @ 3 บาท, อายุ 1 ปี 10 เดือน 18 วัน กำหนดใช้สิทธิได้ทุกวันทำการสุดท้ายของเดือน มี.ค., มิ.ย., ก.ย. และ ธ.ค. (ใช้สิทธิครั้งแรกวันที่ 30 มี.ค. 55 และใช้สิทธิครั้งสุดท้ายวันที่ 30 ธ.ค. 56 ซึ่งเป็นวันหมดอายุ)
ทั้งนี้ JMART ดำเนินธุรกิจหลัก คือ จัดจำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่และอุปกรณ์เสริม ให้แก่ผู้ผลิตหลักทุกราย ได้แก่ Nokia, Sony Ericsson, Samsung และ LG นอกจากนี้ ยังเป็นผู้จัดจำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ภายใต้แบรนด์ของตนเองด้วย "J-Fone" ทั้งนี้ ธุรกิจจัดจำหน่ายคิดเป็นสัดส่วนรายได้มากกว่า 90% ส่วนที่เหลืออีกราว 10% มาจากธุรกิจพื้นที่ค้าปลีกให้เช่า และธุรกิจติดตามเร่งรัดหนี้
บริษัทเพิ่งประกาศผลประกอบการปี 54 มีกำไรสุทธิ 171 ล้านบาท (EPS 0.57 บาท) เพิ่มขึ้น 80% YoY ดีกว่าประมาณการของตลาดที่คาดไว้ที่ 138 ล้านบาท โดยกำไร 4Q54 อยู่ที่ 57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 49% YoY และ 15% QoQ นอกจากนี้บริษัทยังประกาศจ่ายเงินปันผล 24 สต./หุ้นสำหรับงวด 2H54 (XD วันที่ 12 มี.ค. 55) เมื่อรวมกับการจ่ายระหว่างกาล 1H54 จำนวน 16 สต./หุ้น จะคิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล 5.2% ราคาหุ้นปัจจุบันคิดเป็น PER ประมาณ 13-14 เท่า และ PBV ราว 3.5 เท่า นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนนำบริษัทย่อย JMT ซึ่งดำเนินธุรกิจติดตามเร่งรัดหนี้ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯภายในปีนี้