นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์(BTS) คาดรายได้งวดปี 55/56(เม.ย.55-มี.ค.56)จะเติบโตราว 15% เนื่องจากบริษัทได้เพิ่มจำนวนตู้โดยสารและคาดว่าปริมาณผู้โดยสารจะสูงขึ้นเป็น 6 แสนเที่ยวคน/วัน จากงวดปีก่อนหน้าอยู่ที่ 5.7 แสนเที่ยวคน/วัน โดยในงวดปี 54/55(เม.ย.54-มี.ค.55)สามารถทำรายได้ทะลุเป้าหมายที่วางไว้ว่าจะเติบโตราว 15%
บริษัทยังคาดว่ากำไรสุทธิในงวดปี 55/56 ก็จะเติบโตในทิศทางเดียวกับรายได้ แม้ว่าในงวดปี 54/55 จะมีการรับรายการพิเศษเป็นค่าชดเชยจากกรมธนารักษ์
การเติบโตของผลการดำเนินงานในงวดปี 54/55 มาจากปริมาณผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจากผลกระทบน้ำท่วม และราคาน้ำมันที่ทยอยปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่งวดปี 55/56 จะมีการเพิ่มตู้โดยสารรถไฟฟ้าใหม่เข้ามา 35 ตู้ ที่จะทยอยรับมอบตั้งแต่กลางปีนี้เป็นต้นไป จะช่วยเพิ่มจำนวนผู้โดยสารและขยายการบริการไปยังสถานีส่วนต่อขยายบางใหญ่-บางหว้า จึงมองว่าจำนวนผู้โดยสารจะเพิ่มเป็น 6 แสนเที่ยวคน/วัน
สำหรับการปรับขึ้นค่าโดยสารนั้น นายคีรี กล่าวว่า บริษัทเปิดให้บริการมา 12 ปี แต่ไม่เคยปรับขึ้นค่าโดยสารเลย แม้ว่าต้นทุนค่าใช้จ่ายจะเพิ่มขึ้น ปัจจุบันราคาค่าโดยสารอยู่ที่ 15-40 บาท/เที่ยว ต่ำกว่าเพดานที่รัฐบาลกำหนดไว้ที่ 15-45 บาท/เที่ยว เพราะฉะนั้นในปีนี้ยังมีโอกาสที่จะพิจารณาปรับค่าโดยสาร แต่ก็ต้องรอจังหวะที่เหมาะสม
"เรายังคง focus การเติบโตจากธุรกิจรถไฟฟ้าเป็นหลักในสัดส่วนที่มาก เมื่อเทียบกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่เราวางแผนว่าจะค่อย ๆ โต และเราจะต้องทำธุรกิจให้มีความรอบคอบ ไม่ให้เสี่ยงเหมือนในช่วงก่อนที่ผ่านมา รายได้ในงวด 54/55 ก็เป็นบทพิสูจน์ให้เห็นว่าการเติบโตของเราเป็นที่น่พาอใจแม้ในช่าวง 2 เดือนน้ำจะท่วมและหลายรายประสบภาวะแย่"นายคีรี กล่าว
นายคีรี กล่าวว่า สัดส่วนรายได้หลักในงวดปี 54/55 ยังมาจากการให้บริการรถไฟฟ้า 65-70% วีจีไอ โกลบอล มีเดีย 20% ที่เหบือเป็นรายได้จากอสังหาริมทรัพย์และอื่น
ในขณะนี้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีการพัฒนา 1 โครงการ คือ โครงการ Abstracts ลาดพร้าว ที่จะรับรู้รายได้อย่างมีนัยสำคัญในงวดปี 55-56 ที่เหลือมาจากการรับจ้างบริหารโรงแรมที่จะเน้นในแถบเอเชีย ขณะนี้มีอยู่ในมือแล้ว 87 แห่ง แต่จะทยอยรับรู้รายได้จากค่าจ้างบริหารใน 3 ปีข้างหน้า