นายก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.เอเชียพลัส (ASP) กล่าวว่า บริษัทคาดว่ากำไรสุทธิในปี 55 เติบโต 25% จากปี 54 ที่มีกำไรสุทธิ 505 ล้านบาท เนื่องจากได้รับประโยชน์การลดภาษีเงินได้นิติบุคคล ขณะที่ธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ยังเติบโตได้ดี และธุรกิจทุกด้านเติบโตดีเช่นกัน
แม้ว่าในปีนี้ส่วนแบ่งตลาด(มาร์เก็ตแชร์)ธุรกิจนายหน้าค้าหลักทรัพย์อาจจะลดลงบ้างจากปีก่อนที่อยู่ในระดับ 4.3% หลังจากเปิดเสรีค่าธรรมเนียมนายหน้าค้าหลักทรัพย์(คอมมิชชั่น) ขณะที่บริษัทพยายามคงอัตราค่าธรรมเนียมไว้ที่ 0.19% เท่ากับปีก่อน
ส่วนธุรกิจการลงทุน บริษัทมองว่าจะสามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้นในระดับใกล้เคียงในปี 53 ที่มีรายได้ 658 ล้านบาท หลังจากปี 54 ทำรายได้เพียง 310 ล้านบาท เนื่องจาก P/E ในตลาดหุ้นต่างประเทศอยู่ในระดับต่ำจากผลกระทบวิกฤตเศรษฐกิจ ขณะที่ตลาดหุ้นไทยยังมีปัจจัยพื้นฐานดี จึงเป็นโอกาสลงทุนและสร้างผลตอบแทนที่ดีได้
นายก้องเกียรติ กล่าวว่า บริษัทวางแผนกู้เงินจากธนาคารวงเงินไม่เกิน 500 ล้านบาท เพื่อขยายพอร์ตลงทุนทั้งหุ้นในและต่างประเทศ จากที่มีอยู่ 2 พันล้านบาท ทั้งนี้ บริษัทมีสัดส่วนลงทุนหุ้นในต่างประเทศ ได้แก่ สหรัฐ อังกฤษ เยอรมัน ฝรั่งเศส จีน ฮ่องกง และญี่ปุ่น
บริษัทคาดว่าในปีนี้สัดส่วนรายได้จากพอร์ตลงทุนจะเพิ่มเป็น 20% จาก 15% ขณะที่รายได้หลักมาจากธุรกิจนายหน้าค่าหลักทรัพย์ 60% ส่วนธุรกิจวาณิชธนกิจ 20% ที่เหลือมาจากธุรกิจอื่น
"แม้จะมีการเปิดเสรีค่าคอมฯ แต่เราก็ยังเชื่อว่าในปีนี้เรายังมีกำไรที่ดีกว่าปีก่อนได้ โอกาสของธุรกิจจากการลงทุนจะกลับมา ซึ่งการที่เราลงทุนก่อน ทำให้เราได้เปรียบ และได้ราคาที่ถูกกว่า ดังนั้นผลตอบแทนที่กลับมาจะดีกว่าด้วยเหมือนกัน ส่วนหุ้นไทยไม่ใช่ว่าไม่ดี ที่ผ่านมาเราก็ซื้ออยู่ในพอร์ต รอทยอยขายหุ้นแล้วค่อยกลับมาซื้อคืนอีกครั้งก็ได้ เพราะตอนนี้ราคาหุ้นที่เราถืออยู่เต็มมูลค่า" นายก้องเกียรติ กล่าว
ด้านธุรกิจวาณิชธนกิจ นายก้องเกียรติ มองว่า ปีนี้มีทิศทางที่ดี และสนับสนุนต่อการสร้างรายได้ของบริษัทด้วย โดยปัจจุบันบริษัทมีดีลในมือ 21 ดีล โดยแบ่งเป็นดีล IPO จำนวน 6 ราย ดีลควบรวม(M&A)จำนวน 5 ราย ,ที่ปรึกษาการเงิน(FA) 9 ราย และ ขายหุ้นเพิ่มทุนให้ผู้ถือหุ้นเดิม(PO) 1 ราย