ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (2 มี.ค.) ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์ความเคลื่อนไหวของวิกฤตหนี้ยุโรป หลังจากที่รัฐบาลสเปนปรับเพิ่มเป้าหมายงบประมาณขาดดุลสูงกว่าที่ได้ให้คำมั่นต่อสหภาพยุโรป (อียู) รวมถึงความวิตกกังวลเกี่ยวกับการปรับโครงสร้างหนี้ของกรีซ และราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับสูง
ดัชนี FTSE 100 ปิดลดลง 20.12 จุด หรือ 0.3% ที่ 5,911.13 จุด ทำให้ตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนีปรับตัวลง 0.4% ซึ่งเป็นสัปดาห์แรกในรอบ 3 สัปดาห์ที่ดัชนีลดลง
นายมาเรียโน ราฮอย นายกรัฐมนตรีสเปน ได้ปรับเพิ่มเป้าหมายการขาดดุลงบประมาณปี 2555 เป็น 5.8% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศปีนี้ ซึ่งสูงกว่าที่สเปนได้ตกลงกับบรรดาผู้นำอียูก่อนหน้านี้ว่าจะควบคุมตัวเลขขาดดุลไว้ที่ 4.4%
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นยังจุดชนวนความวิตกให้กับนักลงทุนว่าอาจจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก โดยราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นแล้ว 7.5% ในปีนี้ ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์กล่าวว่า หากราคาน้ำมันยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่เป็นไปอย่างง่อนแง่นอยู่แล้วในกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมก็จะหยุดชะงัก ส่วนกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ก็จะกลับมาเผชิญกับภาวะเงินเฟ้ออีก
หุ้นกลุ่มเหมืองอ่อนตัวลง นำโดยคาซักมิส ร่วง 5.8% หลังถูกโบรกเกอร์ปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุน อย่างไรก็ตาม หุ้นบาร์เคลย์ดีดขึ้น 2.2% หลังจากธนาคารรายใหญ่ของอังกฤษเผยว่า ได้กู้เงิน 8.2 พันล้านยูโร (1.08 หมื่นล้านดอลลาร์) จากธนาคารกลางยุโรปเพื่อนำมาสนับสนุนธุรกิจของบาร์เคลย์ในสเปนและโปรตุเกส
ทั้งนี้ อีซีบีได้จัดสรรเงิน 529,530.81 ล้านยูโร (7.133 แสนล้านดอลลาร์) สำหรับการดำเนินมาตรการรีไฟแนนซ์ระยะยาว (LTRO) ระยะเวลา 3 ปีเมื่อวันที่ 29 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 2 แล้วที่ธนาคารกลางยุโรปดำเนินการอัดฉีดสภาพคล่องในลักษณะดังกล่าว โดยอีซีบีเปิดเผยว่า ครั้งนี้มีธนาคารทั้งสิ้น 800 แห่งที่ขอเงินกู้