บมจ.แสนสิริ(SIRI)ประกาศกลยุทธ์บุกตลาดโครงการอสังหาริมทรัพย์แนวราบในปี 55 โดยตั้งเป้ายอดขาย 1.5 หมื่นล้านบาท จากปีก่อนที่มียอดขาย 1.35 หมื่นล้านบาท โดยจะมีการเปิดโครงการใหม่จำนวน 25 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 2.7 หมื่นล้านบาท
นายเมธา อังวัฒนพานิช รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาโครงการแนวราบ SIRI กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทจะรุกธุรกิจโครงการอสังหาริมทรัพย์แนวราบครอบคลุมทุกเซกเมนต์ โดยจะเปิดโครงการบ้านเดี่ยว 15 โครงการ มูลค่ารวม 2 หมื่นล้านบาท และ โครงการทาวน์เฮ้าส์ 10 โครงการ มูลค่ารวม 7 พันล้านบาท
โดยในเดือนมี.ค.นี้เปิดตัว 3 โครงการใหม่ ได้แก่ บ้านเดี่ยว 3 ชั้นในโครงการนาราสิริ โทเพียรี่ ถนนนวมินทร์, บ้านเดี่ยวโครงการเศรษฐสิริ แจ้งวัฒนะ-ประชาชื่น และ ทาวน์เฮ้าส์ โครงการฮาบิทาวน์ ภูเก็ต นอกจาก นี้ในไตรมาส 3/55 คาดว่าจะเปิดโครงการบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ทุกแบรนด์
"เราพยายามเปิดทุกเซกเมนต์ ทุกๆโลเกชั่น เรามีที่ดินเกือบครบทั้ง 25 โครงการใหม่.. ยอดรับรู้รายได้ในปี 55 ของแนวราบใกล้เคียงกับยอดขายที่ตั้งเป้าไว้ 1.5 หมื่นล้านบาท เพระเราเป็นบ้านสร้างเสร็จก่อนขาย โดย 2 เดือนที่ผ่านมาโครงการแนวราบมียอดขาย 3,200 ล้านบาท จากยอดขายรวมที่ได้เกือบหมื่นล้านบาท"นายเมธา กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทใช้งบลงทุนซื้อที่ดินในปี 55 สำหรับรองรับโครงการแนวราบ 4 พันล้านบาท ใกล้เคียงปีก่อน
อย่างไรก็ดี ขณะนี้ต้นทุนวัสดุก่อสร้าง อาทิ คอนกรีต เหล็กเส้น ราคาเริ่มปรับตัวขึ้นตามราคาน้ำมัน คาดว่าจะมีการปรับราคาอีก 2-3% ในปีนี้ จากที่ได้ปรับขึ้นเฉลี่ยไปแล้ว 5-10% เมื่อปลายปีก่อน ทั้งนี้ บริษัทยังมั่นใจว่าอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Margin) จะรักษาให้ใกล้เคียงปีก่อนที่ระดับ 30-32%
ขณะที่โรงงานพรีคาสท์ของบริษัทจะเริ่มเปิดตัวและผลิตได้ในปลายเดือนมี.ค.นี้ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างทดลองนั้น ด้วยกำลังการผลิต 150 หลัง/เดือน หรือ 5 หมื่นตร.ม./ด. นายเมธา กล่าวว่า การใช้พรีคาสท์มาใช้ในการสร้างบ้านจะช่วยเรื่องเวลาการสร้างบ้านให้เสร็จเร็วขึ้นจากที่ใช้เวลาสร้าง 8-10 เดือน/หลัง ลดเหลือเพียง 3-5 เดือน/หลัง
นอกจากนี้บริษัทเตรียมขยายโรงงานผลิตพรีคาสท์ เฟส 2 ในอีก 2 ปีข้างหน้า เงินลงทุนประมาณ 400 ล้านบาท กำลังการผลิตเท่ากับเฟสแรกที่ 5 หมื่นตร.ม.ต่อเดือนที่ใช้เงินลงทุน 600 ล้านบาท
นายเมธา ยังกล่าวว่า บริษัทศึกษาการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์พื้นที่ในต่างจังหวัดที่เป็นหัวเมืองใหญ่ ได้แก่ เชียงใหม่ หาดใหญ่ ชลบุรี ซึ่งมองว่ามีศักยภาพเช่นเดียวกับภูเก็ต ทั้งนี้ จะเปิดโครงการ ดี คอนโดมิเนียม นำร่องไปก่อนเช่นเดียวกับรูปแบบที่เปิดโครงการในภูเก็ตที่ได้รับการตอบรับดีทั้งโครงการคอนโดมิเนียมและโครงการฮาบิเทีย ภูเก็ต เปิดตัว 2 สัปดาห์แรกขายได้แล้ว กว่า 120 ยูนิต จากทั้งหมดที่มี 244 ยูนิต ซึ่งขายได้เร็วกว่าที่คาดเป็นผลจากการสร้างแบรนด์