(เพิ่มเติม) DCC ตั้งเป้าปี 55 กำไรโต 26-27%แตะ 1.6-1.7 พันลบ.,มุ่งหน้าลดค่าใช้จ่าย

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday March 5, 2012 17:24 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายมารุต แสงศาสตรา ผู้ช่วยเลขานุการบริษัทและผู้อำนวยการฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศและนักลงทุนสัมพันธ์ บมจ. บมจ.ไดนาสตี้ เซรามิค(DCC) เปิดเผยว่า กำไรสุทธิในปี 55 คาดว่าจะแตะระดับ 1.6-1.7 พันล้านบาท เติบโต 26-27% ส่วนหนึ่งมาจากสิทธิประโยชน์ในการปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลเหลือ 23% จาก 30% ประกอบกับ ยอดขายที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

บริษัทตั้งเป้ายอดขายในปี 55 ราว 8.3 พันล้านบาท เติบโต 15% จากปีก่อน โดยจะเน้นยอดขายของสาขาเดิมเพิ่มเป็น 36 ล้านบาท/สาขา จากปีก่อนอยู่ที่ 32 ล้านบาท/สาขา พร้อมกันนั้นจะมีการปรับขึ้นราคาขายเฉลี่ย 3-4% ทำให้ราคาขายกระเบื้องเฉลี่ยสิ้นปีนี้ เพิ่มเป็น 132 บาท/ตร.ม.จากปีก่อนอยู่ที่ 128.91 บาท/ตร.ม. โดยบางช่วงราคาขายอาจปรับสูงสุดที่ 135 บาท/ตร.ม.

ขณะที่บริษัทตั้งเป้ายอดขายสูงขึ้นแตะระดับ 1 หมื่นล้านบาทในปี 57

นายมารุต กล่าวว่า บริษัทตั้งงบลงทุนในปีนี้ 455 ล้านบาท ส่วนหนึ่งใช้ในการสร้างสาขาใหม่ 15 สาขา วงเงินลงทุน 200 ล้านบาท หรือคิดเป็นสาขาละ 5-6 ล้านบาท ซึ่งจะส่งผลให้สิ้นปีนี้บริษัทมีสาขาเพิ่มเป็น 220-223 สาขา และจะใช้ลงทุนปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต ด้วยการปรับปรุงเตาเผา 80 ล้านบาท เพื่อทำให้กำลังการผลิตสิ้นปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 64 ล้าน ตร.ม./ปี จากปัจจุบันอยู่ที่ 61 ล้าน ตร.ม./ปี และตั้งเป้าภายในปี 59 จะเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 79.2 ล้าน ตร.ม./ปี

ส่วนงบลงทุนที่เหลือเพื่อสร้างคลังสินค้าและอุปกรณ์ในสาขาแต่ละแห่ง

ในปีนี้บริษัทตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งการตลาด(มาร์เก็ตแชร์)เป็น 46-47% จากปีก่อนอยู่ที่ 44-45% โดยบริษัทยังครองมาร์เก็ตแชร์เป็นอันดับ 1 ในตลาดกระเบื้องปูพื้นและผนัง ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้น(มาร์จิ้น)ปีนี้คาดว่าเพิ่มเป็น 45% จากปีก่อนอยู่ที่ 43.5% แม้ต้นทุนราคาก๊าซมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แต่บริษัทได้หันมาใช้ดินชนิดใหม่เป็นวัตถุดิบในการผลิตกระเบื้อง ทำให้สามารถลดการใช้ก๊าซได้ 6% รวมทั้ง สินค้าที่มีมาร์จิ้นสูงยังได้รับความนิยม

พร้อมกันนั้น บริษัทยังตั้งเป้าลดค่าใช้จ่าย SG&A เหลือ 1 ใน 4 ของอัตรากำไรขั้นต้น จากปีก่อนอยู่ 1 ใน 3

"ในช่วง 5 ปีนี้ บริษัทยังไม่มีแผนซื้อเตาเผาใหม่ แต่จะเน้นการปรับปรุงประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยลดเงินลงทุนได้ต่ำกว่า แต่สิ่งที่เป็นห่วงคือราคาก๊าซที่ปรับเพิ่มขึ้น โดย ปตท.คาดว่าจะขึ้น 5% แต่เราคาดว่าขึ้น 13% ดังนั้นจึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อชดเชย ทำให้เราหันมาใช้ดินชนิดใหม่ที่ลดการใช้ก๊าซได้ 6% และส่วนหนึ่งอาจต้องผลักภาระให้ลูกค้า" นายมารุต กล่าว

นายมารุต กล่าวอีกว่า บริษัทยังมีแผนซื้อแฟรนไชส์คืนจากตัวแทนขาย 2-3 แห่งในปีนี้ จากทั้งหมด 8 แห่ง เนื่องจากมียอดขายไม่ดีนัก คาดว่าจะต้องใช้เงินลงทุนซื้อแฟรนไชส์คืนแห่งละ 15 ล้านบาท

สำหรับแนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 1/55 คาดว่ายอดขายเติบโตเป็นเลขหลักเดียวเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากในช่วง 2 เดือนแรกของปี คือ เดือน ม.ค.-ก.พ.ยอดขายไม่เติบโตเท่าที่ควร เนื่องจากเพิ่งผ่านพ้นช่วงน้ำท่วมใหญ่ แต่คาดว่าตั้งแต่ไตรมาส 2/55 เป็นต้นไปยอดขายจะกลับมาเติบโตอย่างก้าวกระโดด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ