ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก:วิตกเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ฉุดดาวโจนส์ปิดลบ 14.76 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday March 6, 2012 06:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (5 มี.ค.) ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกัน 2 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าเศรษฐกิจโลกอาจจะเข้าสู่ภาวะชะลอตัว หลังจากรัฐบาลจีนปรับลดเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจในปีนี้ ขณะที่ภาคการผลิตและภาคบริการของยูโรโซนหดตัวลง นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลที่ว่าแผนการปรับโครงสร้างหนี้ของกรีซอาจจะไม่ราบรื่นตามที่คาดการณ์ไว้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวลง 14.76 จุด หรือ 0.11% ปิดที่ 12,962.81 จุด ดัชนี S&P 500 ปรับตัวลง 5.30 จุด หรือ 0.39% ปิดที่ 1,364.33 จุด และดัชนี Nasdaq ร่วงลง 25.71 จุด หรือ 0.86% ปิดที่ 2,950.48 จุด

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างผันผวน หลังจากรัฐบาลจีนประกาศปรับลดเป้าหมายการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ปี 2555 ลงมาอยู่ที่ระดับ 7.5% จากเป้าหมายเดิมที่วางไว้ที่ 8% ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่รัฐบาลจีนได้ปรับลดเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจภายในประเทศ หลังจากที่ได้คงเป้าหมายเอาไว้ที่ 8% มาเป็นเวลา 7 ปีติดต่อกัน

การปรับลดเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และยังได้ฉุดหุ้นกลุ่มผู้ผลิตเหล็กร่วงลงอย่างหนัก เนื่องจากจีนเป็นผู้นำเข้าเหล็กรายใหญ่อันดับต้นๆของโลก โดยหุ้นเอเค สตีล โฮลดิ้ง ดิ่งลง 6% และหุ้นยูเอส สตีล ร่วงลง 4.7% อีกทั้งยังฉุดหุ้นกลุ่มวัสดุและกลุ่มเครื่องจักร่วงลงเช่นกัน โดยหุ้นแคทเตอร์พิลลาร์ ร่วงลง 2.1% และหุ้นอัลโค อิงค์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตอลูมิเนียมรายใหญ่ของโลก ดิ่งลง 3.6%

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากความวิตกกังวลเรื่องเศรษฐกิจยูโรโซน หลังจากมาร์กิต อิโคโนมิก เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและบริการของประเทศในยูโรโซน ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 49.3 จุดในเดือนก.พ. จากระดับ 50.4 จุดในเดือนม.ค. ซึ่งดัชนีที่เคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 50 จุดบ่งชี้ว่า ภาคการผลิตและภาคบริการหดตัวลง

ตลาดได้รับแรงกดดันมากขึ้นจากความกังวลที่ว่าแผนการปรับโครงสร้างหนี้ของกรีซอาจจะไม่ราบรื่นตามที่คาดการณ์ไว้ แม้สถาบันการเงินระหว่างประเทศ (IIF) เปิดเผยว่า สถาบันการเงินรายใหญ่ 12 แห่ง รวมถึงธนาคารบีเอ็นพี พาริบาส์ ของฝรั่งเศส และธนาคารดอยช์ แบงก์ ของเยอรมนี ได้ลงนามในคำมั่นสัญญาว่าจะมีส่วนร่วมในแผนการบรรเทาภาระหนี้สินของกรีซก็ตาม

รัฐบาลกรีซกำลังพยายามโน้มน้าวธนาคารพาณิชย์และกองทุนเพื่อการลงทุนรายอื่นๆให้เข้ามามีส่วนร่วมในโครงการปรับโครงสร้างหนี้ ผ่านการสว็อปพันธบัตร หรือการปรับลดมูลค่าหน้าพันธบัตรของรัฐบาลกรีซลง 53.5% แต่สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) มองว่าการปรับลดมูลค่าหน้าตั๋วของพันธบัตรรัฐบาลกรีซลงมาอยู่ที่ระดับ 53.5% จากเดิมที่เคยประมาณการไว้ที่ 50% นั้น สะท้อนให้เห็นว่าศักยภาพในการชำระหนี้ของกรีซอ่อนแออย่างมาก

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ทางการสหรัฐเปิดเผยข้อมูลที่ค่อนข้างผันผวนเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย โดยสำนักงานจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) รายงานว่า ดัชนีภาคบริการขยายตัวที่ระดับ 57.3 จุดในเดือนก.พ. เพิ่มขึ้นจากระดับ 56.8 จุดของเดือนม.ค. แต่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดสั่งซื้อของโรงงานภายในประเทศหดตัวลง 1% ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นสถิติที่หดตัวลงรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2552 และสะท้อนถึงภาวะชะลอตัวของภาคการผลิตสหรัฐ

หุ้นยูเอส แอร์เวย์ส ดิ่งลง 8.4% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้ชะลอตัวลงในเดือนก.พ. อันเนื่องมาจากการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน ขณะที่หุ้นอเมริกัน อินเตอร์เนชันแนล กรุ๊ป (AIG) พุ่งขึ้น 2% หลังจากบริษัทเปิดเผยว่าจะระดมทุน 6 พันล้านดอลลาร์ ด้วยการขายหุ้นบางส่วนในธุรกิจประกันในเอเชีย

ดัชนีหุ้นกลุ่มะนาคาร KBW Bank Index ร่วงลง 1.3% โดยหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ร่วงลง 2% หุ้นซิตี้กรุ๊ปร่วงลง 1.2% หลังจากซิตี้กรุ๊ปประกาศแต่งตั้งนายไมเคิล โอนีล ให้ดำรงตำแหน่งประธานแทนนายริชาร์ด พาร์สันส์

หุ้นแอปเปิล อิงค์ ร่วงลง 2.2% ส่งผลให้มูลค่าทางตลาดของแอปเปิลร่วงลงมาอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 5 แสนล้านดอลลาร์ ก่อนที่แอปเปิลจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ iPad 3 ในวันที่ 7 มี.ค.นี้

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ โดยวันพุธ ADP Employer Services เปิดเผยตัวเลขการจ้างงานทั่วประเทศสหรัฐเดือนก.พ., ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่สองสำหรับประสิทธิภาพการผลิตประจำไตรมาส 4/2011 และวันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

ส่วนวันศุกร์ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.พ. ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าตัวเลขการจ้างงานเดือนก.พ.จะเพิ่มขึ้น 210,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ 8.3%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ