(เพิ่มเติม) "กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต"ยันไม่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday March 6, 2012 14:02 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บริษัท กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทไม่มีแผนจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ แม้ว่าจะต้องแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนตามหลักเกณฑ์ของทางการ เนื่องจากผู้ถือหุ้นทั้งฝ่ายธนาคารกรุงไทย(KTB)และผู้ถือหุ้นต่างชาติ คือ แอกซ่า ไม่มีนโยบายดังกล่าว

สำหรับผลการดำเนินงานในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ ถือว่าเบี้ยประกันทะลุเป้า โดยเติบโต 50% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ปี 54 เบี้ยประกันรวมอยู่ที่ 2.1 หมื่นล้านบาท เติบโต 20% โดยเบี้ยประกันปีแรกอยู่ที่ 7 พันล้านบาท เติบโตราว 9%

นายไมค์ แพล็กซ์ตัน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต จำกัด กล่าวว่า การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจ และบริษัทฯก็ได้รับการเชื้อเชิญเหมือนกัน แต่เนื่องจากผู้ถือหุ้นของบริษัทฯยังไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์

แต่ทั้งนี้ในปี 57 ตามกฎหมายได้ระบุให้เป็นบริษัทมหาชน ซึ่งเรื่องนี้บริษัทฯคงจะต้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป แต่คงยืนยันว่าไม่มีแผนจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์

ด้านนายเดวิค โครูนิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน กล่าวว่า ในปี 54 บริษัทฯมีเบี้ยประกันรวม 21,000 ล้านบาท เติบโต 20% จากปี 53 โดยมีเบี้ยประกันปีแรกมีจำนวน 7,084 ล้านบาท เติบโต 9% จากปี 53 ซึ่งมีการขายผ่านช่องทางตัวแทน(Agent)3,180 ล้านบาท, ขายผ่านธนาคาร 3,571 ล้านบาท และผ่านช่องทางองค์กร 334 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิ 3,598 ล้านบาท และมีรายได้ 1,666 ล้านบาท

ณ สิ้นปี 54 บริษัทฯมีกำไรสะสมกว่า 3,600 ล้านบาท ในส่วนนี้บริษัทฯก็ได้มีการนำมาใช้ในการลงทุนพัฒนาองค์กร และลงทุนในตลาดทุน ส่วนเรื่องการจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นสำหรับผลการดำเนินงานงวดปี 54 บริษัทฯจะมีการจ่ายเงินปันผลแน่ และจะจ่ายภายใต้ตามกฎของคปภ. โดยบริษัทฯได้เริ่มมีการจ่ายเงินปันผลมาตั้งแต่ปี 53 ซึ่งจ่ายปันผลรวม 440 ล้านบาทให้แก่ผู้ถือหุ้นไป

"ในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้บริษัทฯก็สามารถทำเบี้ยประกันได้ทะลุเป้าหมายไปมาก ๆ แล้วแต่ก็บอกไม่ได้ว่าเป้าหมายเท่าไรเพราะเป็นโยบายของบริษัทฯที่จะไม่พูดถึงเป้าหมาย แต่บอกได้ว่าโตกว่า 50% เมื่อเทียบกับกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว"นายเดวิด กล่าว

ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทฯมีสินทรัพย์ลงทุนรวม 52,381 ล้านบาท โดยมีสัดส่วนการลงทุนในพันธบัตร 83% (แบ่งเป็นการลงทุนใน Corporate Bond 17% และพันธบัตรรัฐบาล 66%), ลงทุนตราสารการเงินระยะสั้น 5%, ลงทุนหุ้นทุน 8% และอื่น ๆ อีก 4%

ทั้งนี้ บริษัทฯมีแผนจะลดสัดส่วนการลงทุนในส่วน Corporate Bond ลงเล็กน้อย เพื่อที่จะไปเพิ่มการลงทุนในหุ้นทุนให้มีสัดส่วนเป็น 10-12% โดยการลงทุนในหุ้นทุนบริษัทฯก็มีการลงทุนใน SET50 และหุ้นที่มี active โดยจะเน้นลงทุน Sector ที่ให้ผลตอบแทนดี

มร.เดวิด กล่าวต่อว่า มีความมั่นใจมากที่ตลาดหุ้นไทยยังจะปรับตัวขึ้นต่อไปได้เรื่อย ๆ โดยมองว่าไทยยังดีกว่าประเทศอื่น ๆ ในเอเชีย แม้จะเจอวิกฤตการณ์ก็สามารถที่จะกลับมาได้ดีเหมือนเดิม

"อย่างเรื่องน้ำท่วม ถ้าเกิดในอังกฤษหรือประเทศอื่น คนก็ต้องหยุดทำงานไปแล้ว แต่ไทยแปลกใจมากที่คนยังทำงานได้ แม้ตัวแทนของเราก็ยังสามารถหาพื้นที่แห้งไปขายประกันต่อได้"มร.เดวิด กล่าว

ส่วนมร.โรเจอร์ ดีคอน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายขาย กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทฯมีนายหน้าประกันชีวิตที่ประจำในสาขาธนาคารกรุงไทยทั่วประเทศ 1,000 สาขา เพิ่มขึ้นจาก 4,400 คน เป็นกว่า 9,000 คน ซึ่งทำให้สามามรถสร้างยอดขายได้สูง

โดยมีสัดส่วนการขายผ่านช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านธนาคาร 50%, ขายผ่านช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านตัวแทน 45% ทั้งสองช่องทางนี้ถือว่าแข็งแกร่ง และมีการขายผ่านช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านธุรกิจองค์กรอีก 5% โดยบริษัทฯมีความมุ่งหวังที่จะสร้างความสมดุลของการขายผ่านธนาคาร และขายผ่านช่องทางตัวแทน ให้มีความสมดุลกันที่เท่า ๆ กันในสัดส่วนช่องทางละ 45% เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงด้านการขายทางหนึ่งที่จะไม่เน้นอิงไปทางช่องทางใดช่องทางหนึ่ง

ส่วนน.ส.สายฝน สัจจศิลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด กล่าวว่า ในวันที่ 1 เม.ย.นี้บริษัทฯจะออก "แผนประกันสุขภาพ"(The Complete Health Solution) ซึ่งแผนนี้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ทุกกลุ่มทั้งลูกค้าระดับบน และลูกค้าทั่วไป โดยจะให้ความคุ้มครองทั่วโลกถึง 1 ล้านบาท หรือ 3.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยจะให้ความคุ้มครองทั้งในยุโรป, สหรัฐอเมริกา และในเอเชียด้วย และในช่วงไตรมาส 4/55 ก็มีแผนที่จะออกยูนิคลิ้งค์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ