บมจ.ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ (LALIN) เปิดเผยว่า ในปี 55 บริษัทมีแผนเปิดโครงการใหม่ 6-8 โครงการ มูลค่ารวม 3.5 พันล้านบาท พร้อมตั้งเป้ายอดรับรู้รายได้ เติบโต 15% จากปีก่อนที่มีรายได้ 1.9 พันลบ. และยอดขายโต 15% จากปีก่อนมาอยู่ที่ 2.55 พันล้านบาท โดยบริษัทมีแผนจะขยายธุรกิจให้ครอบคลุมตลาดทุก segment
นายไชยยันต์ ชาครกุล ประธานกรรมการบริหาร LALIN กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ามีรายได้เติบโตเฉลี่ยปีละ 15% เป็นเวลา 3 ปีติดต่อกัน (ปี 55-57) และใน 3 ปีสัดส่วนรายได้จากคอนโดมิเนียมจะเพิ่มขึ้นมาที่ 20-30% จากรายได้รวม แต่บริษัทยังคงเน้นโครงการที่ทำรายได้แบบสม่ำเสมอมากกว่า ขณะที่รายได้จากคอนโดมิเนียม ซึ่งใช้เวลาก่อสร้าง 2 ปีกว่าจะรับรู้รายได้ เพราะน่าจะเป็นที่ต้องการของผู้ถือหุ้นและคณะกรรมการบริษัทมากกว่า โดยมองการจ่ายผลตอบแทนที่สม่ำเสมอและเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
สำหรับกลยุทธการดำเนินธุรกิจปีนี้จะเน้นความมี Flexibiliby เพื่อเป็นกลยุทธ์การแข่งขัน เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนและแข็งแกร่ง ดังนั้น ในปีนี้นอกจากแผนการเปิดโครงการใหม่ 6-8 โครงการ เน้นเป็นโครงการคอนโดมิเนียม 2-3 โครงการ บริษัทจะเริ่มการบุกตลาดต่างจังหวัดตั้งแต่ไตรมาส 2/55 โดยมีแผนจะเปิดโครงการใหม่ 3-4 โครงการ ทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ บ้านแฝด ทำเลที่น่าสนใจ มีทั้งพัทยา ชลบุรี ระยอง นครปฐม ขอนแก่น อุบลราชธานี และ อุดรธานี ซึ่งบริษัทได้ตั้งงบเพื่อจัดซื้อที่ดินไว้ที่ 700-800 ล้านบาท
นายไชยยันต์ กล่าวอีกว่า ในปี 55 คาดว่าอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์จะมีบ้านจดทะเบียนสร้างใหม่เติบโต 4-5% จากปีก่อน โดยมองพื้นฐานเศรษฐกิจไทยยังแข็งแกร่ง แต่ยังมีปัจจัยที่น่าเป็นห่วงคือน้ำท่วม และการชุมนุมทางการเมือง ซึ่งหวังว่าปีนี้คงจะไม่เกิดสถานการณ์ดังกล่าวอีก
อย่างไรก็ตาม เชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะสามารถบริหารจัดการน้ำให้เป็นไปตามแผนได้ คาดว่าการลงทุนในพื้นที่มีความเสี่ยงจะมีการกลับมาทบทวนการลงทุนอีกครั้งในไตรมาส 3-4/55 โดยขณะนี้นักลงทุนคงต้องรอดูความชัดเจนในการดำเนินการตามแผนของรัฐบาลอย่างเป็นรูปธรรม
"ปีนี้เป็นปีที่ท้าทายทั้งเรื่องน้ำท่วม และมีการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ และตอนนี้ยังมีเรื่องของราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นอีก ตอนนี้เศรษฐกิจไทยคงต้องพึ่งการส่งออก ดังนั้นปีนี้เศรษฐกิจจะดีหรือไม่ คงอยู่ที่ฝีมือล้วนๆ ไม่มีโชคช่วยแล้ว...นักธุรกิจคงไม่อ่านข่าวแล้วเชื่อ แต่ต้องรอดูของจริงว่าแผนที่ทำไว้จะเป็นรูปธรรมหรือไม่ เชื่อว่าหลังจากนี้ 3-6 เดือน ผลงานของการจัดการน้ำต้องเป็นรูปธรรมเพื่อให้ความเชื่อมั่นต่อภาคเอกชนกลับมา ตอนนี้ถือว่าใช้ได้แล้ว เพราะกำลังซื้อเริ่มฟื้นตัว คาดว่าจะกลับมาในไตรมาส 2"นายไชยยันต์ กล่าว
ด้านนายณัฐ สง่าสงเคราะห์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ LALIN กล่าวว่า ในปี 55 กำไรสุทธิของบริษัทจะมีการเติบโตในอัตราเดียวกับรายได้ที่ 15% และมีการตั้งเป้ารายได้เติบโตเฉลี่ย 15% ในช่วง 3 ปีนี้
สำหรับแผนการระดมเงินของบริษัทล่าสุด ธนาคารกรุงเทพได้จัดวงเงินสินเชื่อเป็น Term loan ให้บริษัทวงเงิน 500 ล้านบาท ซึ่งไม่รวมสินเชื่อเพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียน อย่างไรก็ตาม ในปีก่อนบริษัทมีการระดมเงินโดยการออกตั๋วเงินระยะสั้นค่อนข้างมาก ส่วนปีนี้แผนการระดมเงินขึ้นอยู่กับการใช้เงินและการวางแผนของฝ่ายการเงิน