ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดวันนี้ที่ระดับ 1,153.16 จุด ลดลง 4.79 จุด(-0.41%) มูลค่าการซื้อขาย 31,425.70 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่อยู่ระดับ 1,160.28จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,150.50 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 187 หลักทรัพย์ ลดลง 310 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 152 หลักทรัพย์
นายวรุตม์ ศิวะศริยานนท์ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์สำหรับลูกค้าสถาบัน บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงเช่นเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย เหมือนกับตลาดในยุโรปที่ช่วงบ่ายเปิดมาก็ปรับตัวลงเป็นส่วนใหญ่
ทั้งนี้ คงจะเป็นผลจากการมองกรณีจีนปรับลดเป้าตัวเลข GDP ลงเหลือ 7.5% จากเดิมที่เคยตั้งไว้ 8% มาหลายปี พร้อมทั้งระบุว่าจะหันไปโฟกัสการขยายตัวในประเทศแทน ซึ่งการที่จีนชะลอเป้าลงทำให้อาจมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก และพวกสินค้าโภคภัณฑ์ได้ อย่างแร่, โลหะ และน้ำมัน เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังมีเรื่องที่นายกฯของอิสราเอลเริ่มมีความคิดจะถล่มอิหร่าน ขณะที่ประธานาธิบดีโอบาม่าไม่ต้องการจะให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว แต่ยังไม่ได้ผลสรุปออกมา อย่างไรก็ตาม ทางสหรัฐยังรับประกันว่าจะแก้ไขปัญหาอิหร่านโดยยังไม่ใช้กำลัง ทำให้ทั้งสองปัจจัยกดดันตลาดฯในวันนี้
ส่วนการสวอปพันธบัตรของกรีซขณะนี้ก็ยังทำไปได้ไม่มากนัก หากกลุ่มที่ถือ Bond เอกชนไม่ยอมสวอป การจะช่วยกรีซรอบ 2 อาจจะไม่ประสบผลสำเร็จ แต่หากไม่สวอปพวกที่ถือ Bond ก็จะแย่เหมือนกัน ดังนั้นต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิด ซึ่งจะมีระยะเวลาถึงวันที่ 8 มี.ค.นี้
"ตลาดบ้านเราไม่ได้มีปัจจัยในประเทศอะไรที่มีน้ำหนักต่อตลาดฯในขณะนี้ น้ำหนักของตลาดฯจะไปทางต่างประเทศหมด ซึ่งการที่ตลาดบ้านเราปรับตัวลงก็เป็นแค่การปรับฐาน จากแรง take profit บางส่วนของนักลงทุน เพราะที่จริงหุ้นก็วิ่งขึ้นไปมากแล้วเหมือนกัน แรง take profit ที่เกิดขึ้นทำให้เงินบาทอ่อนค่าแต่ก็ไม่ได้รุนแรงอะไร เพราะเป็นการขายเอากำไรกลับบ้านบางส่วนเท่านั้น"นายวรุตม์ กล่าว
พรุ่งนี้(7 มี.ค.)ตลาดหุ้นไทยปิดทำการ 1 วัน เนื่องในวันมาฆบูชา
ส่วนแนวโน้มการลงทุนในวันพฤหัส(8 มี.ค.)นายวรุตม์ กล่าวว่า ตลาดบ้านเราอาจยังต้องรับแรงขายทำกำไรอยู่ แต่เชื่อว่าตลาดฯคงจะไม่ปรับตัวลงมากนัก เพราะยังมีสภาพคล่องอยู่มาก เพียงแต่ตอนนี้กำลังรอปัจจัยใหม่เข้ามา พร้อมแนะเกาะติดสถานการณ์ระหว่างอิหร่าน-อิสราเอสอย่างใกล้ชิด โดยให้แนวรับ 1,148 จุด แนวต้าน 1,160 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
IVL มูลค่าการซื้อขาย 4,221.20 ล้านบาท ปิดที่ 40.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,753.19 ล้านบาท ปิดที่ 353.00 บาท ลดลง 5.00 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 1,094.42 ล้านบาท ปิดที่ 173.50 บาท ลดลง 3.50 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 982.12 ล้านบาท ปิดที่ 130.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 951.65 ล้านบาท ปิดที่ 638.00 บาท ลดลง 6.00 บาท