สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยวันนี้ มีมูลค่าการซื้อขายรวม 51,778 ล้านบาท โดยประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดของวัน คือ พันธบัตร ธปท. มีมูลค่าการซื้อขาย 38,418 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 74% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้
สำหรับประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายเป็นลำดับถัดมาคือ พันธบัตรรัฐบาล มีมูลค่า 11,039 ล้านบาท โดยพันธบัตรรัฐบาลรุ่นอายุคงเหลือประมาณ 2 ปี 3 ปี และ 5 ปี (LB145B LB155A และLB176A) เป็นที่นิยมซื้อขายสูงสุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 5,276 ล้านบาท หรือคิดเป็น 48% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน มีมูลค่าการซื้อขายรวม 853 ล้านบาท โดยหุ้นกู้ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรก คือ หุ้นกู้ของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) (THAI222A) หุ้นกู้ของบริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (KTC128A) และหุ้นกู้ของบริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด (TLT134A) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 574 ล้านบาท หรือคิดเป็น 67% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมด
นักลงทุนกลุ่มกองทุนมีสถานะซื้อสุทธิ 4,903 ล้านบาท นักลงทุนกลุ่มบริษัทจดทะเบียนในประเทศมีสถานะซื้อสุทธิ 3,599 ล้านบาท และกลุ่มของนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะซื้อสุทธิ 1,635 ล้านบาท
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Yield) ค่อนข้างคงที่ในทุกช่วงอายุของตราสาร ภาพรวมของตลาดตราสารหนี้ในวันนี้การซื้อขายส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ในพันธบัตรระยะสั้นของธปท.ที่มีการประมูลเมื่อวานนี้ ทั้งนี้การที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยาวค่อนข้างผันผวนในช่วงสัปดาห์ก่อน ส่งผลให้นักลงทุนชะลอการซื้อขายพันธบัตรระยะยาวเพื่อรอดูทิศทางการปรับอัตราดอกเบี้ยของกนง.ในวันที่ 21 มีนาคมนี้
ทั้งนี้อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอายุคงเหลือ 3 เดือน ปิดคงที่ที่ 3.01% และอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอายุคงเหลือ 5 ปี ปิดคงที่ที่ 3.39%