ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดบวก 78.18 จุดหลังภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มจ้างงาน

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday March 8, 2012 06:28 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (7 มี.ค.) หลังจาก ADP Employer Services รายงานว่า ภาคเอกชนของสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นเกินคาดในเดือก.พ. และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รายงานว่ายอดการกู้ยืมเงินของผู้บริโภคปรับตัวสูงขึ้นในเดือนม.ค. ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่มีต่อแนวโน้มเศรษฐกิจภายในประเทศ นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกต่อการทำข้อตกลงปรับโครงสร้างหนี้ของกรีซ และรายงานจากวอลล์สตรีท เจอร์นัลที่ระบุว่า เฟดกำลังพิจารณาเรื่องโครงการซื้อพันธบัตรประเภทใหม่ เพื่อกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้น 78.18 จุด หรือ 0.61% ปิดที่ 12,837.33 จุด ดัชนี S&P 500 ดีดขึ้น 9.27 จุด หรือ 0.69% ปิดที่ 1,352.63 จุด และดัชนี Nasdaq พุ่งขึ้น 25.37 จุด หรือ 0.87% ปิดที่ 2,935.69 จุด

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ โดย ADP Employer Services ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยด้านตลาดแรงงานในสหรัฐเปิดเผยว่า ภาคเอกชนทั่วสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 216,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 208,000 ตำแหน่ง

ตลาดได้รับแรงหนุนมากขึ้นเมื่อมีรายงานความคืบหน้าในด้านบวกเกี่ยวกับการทำข้อตกลงปรับโครงสร้างหนี้ของกรีซ โดยสถาบันการเงินระหว่างประเทศ (IIF) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีสถาบันการเงิน 33 แห่งที่ถือครองพันธบัตรของกรีซ ได้วางแผนที่จะเข้าไปมีส่วนร่วมในโครงการสว็อปพันธบัตร ด้วยการยอมรับการขาดทุนตามเงื่อนไขการปรับลดมูลค่าหน้าตั๋วพันธบัตรของรัฐบาลกรีซลง 53.5% ซึ่งมีเป้าหมายที่จะช่วยบรรเทาภาระหนี้สินสาธารณะของกรีซ

รายงานของ IIF ระบุว่า สถาบันการเงินทั้ง 33 แห่งนี้ถือครองพันธบัตรที่ยังไม่ครบไถ่ถอนของกรีซเป็นวงเงินรวมกัน 8.1 หมื่นล้านยูโร หรือคิดเป็น 39.3% ของมูลค่าพันธบัตรที่ยังไม่ครบกำหนดไถ่ถอนทั้งหมดที่ 2.06 แสนล้านยูโร

ขณะเดียวกัน ตลาดได้แรงหนุนหลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่า ยอดการกู้ยืมเงินของผู้บริโภคสหรัฐประจำเดือนม.ค. พุ่งขึ้น 8.6% ต่อปี สู่ระดับ 2.5123 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคมีมุมมองที่เป็นบวกมากขึ้นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจภายในประเทศ

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับปัจจัยบวกหลังจากหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานว่า เฟดกำลังพิจารณาเรื่องโครงการซื้อพันธบัตรประเภทใหม่ เพื่อกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจ ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นกลุ่มธนาคารทะยานขึ้น โดยหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา พุ่งขึ้น 4% หุ้นเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค บวก 1.6%

หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมดีดตัวขึ้นขานรับรายงานของกระทรวงแรงงานสหรัฐที่ระบุว่า ประสิทธิภาพด้านการผลิตในไตรมาส 4/2554 ขยายตัวได้ดีเกินคาด 0.9% โดยห้นแคทเทอร์ พิลลาร์ พุ่งขึ้น 2.2% หุ้นยูไนเต็ด เทคโนโลยี ปรับตัวขึ้น 1.5% หุ้นเจนเนอรัล อิเล็กทริก (จีอี) ดีดขึ้น 1.9%

หุ้นแอปเปิลขยับขึ้น 0.1% หลังจากมีการคาดการณ์ว่าราคา iPad 3 จะอยู่ที่ 499-829 ดอลลาร์ ขณะที่หุ้นไมโครซอฟท์ปรับตัวขึ้น 0.9% และหุ้นอเมซอนพุ่งขึ้น 1.5%

หุ้นคราฟท์ ฟูดส์ ดิ่งลง 1.2% หลังจากนักวิเคราะห์ของเจฟเฟอร์รี กรุ๊ป ปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นคราฟท์ ฟูดส์ ลงมาอยู่ที่ระดับ “hold” จากระดับ “buy”

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ โดยวันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ส่วนวันศุกร์ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.พ. ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าตัวเลขการจ้างงานเดือนก.พ.จะเพิ่มขึ้น 210,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ 8.3%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ