หุ้น TUF ราคาขยับขึ้น 1.15% มาอยู่ที่ 65.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท มูลค่าซื้อขาย 202.71 ล้านบาท เมื่อเวลา 11.18 น. โดยเปิดตลาดที่ 65 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 66.25 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 64.75 บาท
บล.เอเชีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.ไทยยูเนียน โฟรเซ่น โปรดักส์(TUF)ให้ Fair value ใหม่ เท่ากับ 80 บาท ยังคงเลือก TUF เป็น Top pick ของกลุ่มอาหาร โดยยังคงมุมมองบวกต่อกลยุทธ์ธุรกิจของ TUF ครั้งนี้ และต่อวิสัยทัศน์ของผู้บริหารที่ยังคงมุ่งมั่นที่จะนำพาบริษัทฯ ไปสู่เป้าหมายการเติบโตเชิงรุกที่มียอดขายระดับโลกที่ 5 พันล้านเหรียญฯ ในปี 2558 ด้วยการประกาศเพิ่มทุนเพื่อเสริมสร้างฐานทุนให้แข็งแกร่ง
การเพิ่มทุนจะช่วยลดภาระดอกเบี้ยจ่ายได้ถึง 700 ล้านบาท/ปี ผลักดันกำไรสุทธิปี 2555(เพียงครึ่งปี) และปี 2556 เติบโตเพิ่มขึ้น 3.1% และ 5.3% จากประมาณการเดิม ตามลำดับ ภายใต้สมมติฐานที่ TUF จะนำเงินที่ได้รับจากการเพิ่มทุนกว่า 1 หมื่นล้านบาทไปชำระคืนหนี้เงินกู้ยืมบางส่วน (ยอดคงค้างหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยจ่าย ณ สิ้นปี 2554 ราว 4 หมื่นล้านบาท)
พร้อมทั้งปลดล็อกข้อจำกัดทำให้สามารถกลับจ่ายเงินปันผลได้ตามนโยบายปกติ จากปัจจุบันที่บริษัทฯ มีข้อจำกัดในการจ่ายเงินปันผลไม่เกิน 1.2 พันล้านบาท/ปี หรือเพียง 1.3 บาท/หุ้น เพราะยังมีสัดส่วนหนี้สินสุทธิ/ทุนสูงเกิน 1.2 เท่า ภายใต้ข้อจำกัด (Debt Covenants) อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากการเพิ่มทุนจะช่วยลดสัดส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนลงเหลือ 0.7 เท่า จากปัจจุบันที่ 1.44 เท่า ทำให้บริษัทฯ สามารถกลับมาจ่ายเงินปันผลได้ตามนโยบายปกติทีระดับ 50% ของกำไร เริ่มตั้งแต่งวด 2H55 เป็นต้นไป ซึ่งเร็วกว่ากำหนดเดิมที่ฝ่ายวิจัยคาดไว้ถึง 1 ปี ซึ่งจะช่วยเพิ่ม Div yield ปี 2555-56 ขึ้นไปที่ 3.4% และ 4.9% p.a. ตามลำดับ รวมทั้งเพิ่มโอกาสแสวงหาช่องทางการลงทุนที่มีศักยภาพสูงในต่างประเทศในช่วงเวลาที่เหมาะสม
ทั้งนี้ ได้ปรับลดประมาณการ EPS ปี 2555-56 ลง 15% และ 13% จากเดิม ตามลำดับ (Dilution Effect) สะท้อนผลกระทบจำนวนหุ้นใหม่ที่เพิ่มขึ้น 20% จากเดิม ส่งผลให้คาดการณ์ EPS ปี 2555 ทรงตัวจากปี 2554 แต่จะเพิ่มขึ้นเชิงรุกในปี 2556 ถึง 21% yoy