นายปพนธ์ มังคละธนกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอสเอ็มอี และซัพพลายเชน ธนาคารทหารไทย (TMB) เปิดเผยว่าในปี 55 ธนาคารตั้งเป้าสินเชื่อเอสเอ็มอีขยายตัว 35-40% จากพอร์ตสินเชื่อ ณ สิ้นปี 54 จำนวน 1 แสนล้านบาท
แม้ว่าในช่วง ม.ค.-ก.พ. 55 ยอดสินเชื่อ SME จะขยายตัวได้น้อยประมาณ 3-4 พันล้านบาท หรือเติบโต 3-4% แต่เดือน มี.ค.สินเชื่อเริ่มเร่งตัวมากขึ้น คาดว่าในไตรมาส 1/55 สินเชื่อน่าจะเติบโตได้ 6-7% และตั้งแต่ไตรมาส 2/55 เป็นต้นไปเชื่อว่าจะขยายตัวได้ดี โดยคาดว่าไตรมาส 2-ไตรมาส 4/55 สินเชื่อต้องขยายให้ได้ 10% ต่อไตรมาส เพื่อให้สินเชื่อทั้งปีเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
ปัจจุบัน พอร์ตสินเชื่อเอสเอ็มอี มีสัดส่วน 25-30% ของสินเชื่อรวม และภายใน 5 ปี สัดส่วนสินเชื่อเอสเอ็มอีจะเพิ่มเป็น 1 ใน 3 เท่ากับสินเชื่อรายย่อย และสินเชื่อรายใหญ่
นายปพนธ์ กล่าวว่า จากการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ในเดือน เม.ย. นี้อาจทำให้ธุรกิจมีต้นทุนสูงขึ้น และจำเป็นต้องขอสินเชื่อหมุนเวียนเพิ่มขึ้น ยกเว้นธุรกิจที่มีฐานเงินทุนมากอยู่แล้ว ด้งนั้น การดำเนินธุรกิจภายใต้ต้นทุนที่สูงขึ้น ภาคเอสเอ็มอีต้องมีการปรับตัวเพื่อลดต้นทุนด้านต่างๆมากขึ้น และสิ่งที่น่าเป็นห่วงมากกว่าคือในอีก 3 ปี ที่จะเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ที่ภาคเอสเอ็มอีจะต้องมีการเร่งปรับตัวรองรับการแข่งขันจากคู่ค้าในต่างประเทศที่มีมากขึ้น
"ตอนนี้มีปัจจัยเรื่องค่าแรงขั้นต่ำ แต่อีก 3 ปีจะมี AEC ซึ่งเอสเอ็มอีกต้องปรับตัว เพราะไม่ใช่มีคู่แข่งแค่ในประเทศ แต่จะมีคู่แข่งเป็นต่างประเทศ เอสเอ็มอีนอกจากหาตลาด เอสเอ็มอีต้องบริหารความมีประสิทธิภาพและต้นทุน"นายปพนธ์ กล่าว