นายวิทการ จันทวิมล ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์การตลาด บมจ.เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ (AP) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ายอดรับรู้รายได้ปี 55 สูงขึ้นเป็น 1.7 หมื่นล้านบาท จากปีก่อนที่ทำได้ 1.36 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทมียอดขายรอรับรู้รายได้(Backlog)ณ วันที่ 26 ก.พ.55 จำนวน 28,218 ล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดมิเนียม 2.4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะรับรู้รายได้ในปีนี้ราว 7.6 พันล้านบาท และโครงการแนวราบ 3.7-3.8 พันล้านบาท จะรับรู้ในปีนี้ทั้งหมด
ขณะที่ยอดขายในปีนี้ตั้งเป้าไว้ที่ 2 หมื่นล้านบาท จากปีก่อนอยู่ที่ 1.3 หมื่นล้านบาท โดยบริษัทมีแผนพัฒนาโครงการใหม่ปีนี้ 19 โครงการ มูลค่ารวม 22,500 ล้านบาท แบ่งเป็น ทาวน์เฮ้าส์ 11 โครงการ มูลค่า 9,650 ล้านบาท บ้านเดี่ยว 2 โครงการ มูลค่า 1,840 ล้านบาท และคอนโดมิเนียม 6 โครงการ มูลค่า 11,070 ล้านบาท
สำหรับไตรมาสแรกของปีนี้คาดว่าจะมียอดขาย 5.5 พันล้านบาท ซึ่งปัจจุบันทำได้แล้ว 4.7 พันล้านบาท
ล่าสุด ในวันนี้ บริษัทได้จัดงาน AP Aspiring Sense เพื่อนำเสนอทาวน์เฮ้าส์พร้อมอยู่ 7 โครงการ ภายใต้แบรนด์บ้านกลางเมือง Biz Town รวม 296 ยูนิต มูลค่า 1,275 ล้านบาท ด้วยราคาเริ่มต้น 3 ล้านบาท พร้อมทั้งเปิดตัวบ้านกลางเมือง 3 ทำเลใหม่ ได้แก่ บ้านกลางเมือง รัชดา 36, บ้านกลางเมือง ลาดพร้าว 81 และบ้านกลางเมืองลาดพร้าว 101 จำนวน 333 ยูนิต มูลค่ารวม 1,560 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 3.99 ล้านบาท
"ดีมานด์หลังผ่านวิกฤตน้ำท่วม ผู้บริโภคจะเลือกทำเลในเมือง หรือนอกพื้นที่เสี่ยงมากขึ้น ในขณะที่ซัพพลาย เราเชื่อว่าสินค้าแนวราบในตลาดจะเติบโตน้อยลง ส่งผลให้การแข่งขันบางเบากว่าคอนโดมีเนียม ซึ่งถือเป็นช่องว่างที่เกิดขึ้น และด้วยข้อได้เปรียบของบริษัทที่โครงการแนวราบส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในทำเลศักยภาพ จึงมองว่าเป็นโอกาสทำธุรกิจ"นายวิทการ กล่าว
นายวิทการ กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทตั้งงบลงทุนซื้อที่ดินราว 3 พันล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่ซื้อที่ดิน 5.5 พันล้านบาท เนื่องจากการซื้อที่ดินในปีนี้จะรองรับการพัฒนาโครงการในปี 56 ซึ่งส่วนใหญ๋เป็นทาวน์เฮ้าส์และคอนโดมิเนียม ขนาดโครงการเล็กกว่าบ้านเดี่ยว
โครงการที่เปิดใหม่ในปีนี้บริษํทจะให้ความสำคัญกับสถานการณ์น้ำท่วมที่เคยเกิดขึ้นเมื่อปีก่อน โดยแต่ละโครงการจะมีการถมที่สูงขึ้นจากถนนราว 50 ซม.-1 เมตร มีการทำแนวป้องกันน้ำท่วมรอบโครงการ รวมทั้งวางจุดสูบน้ำและปิดตั้งเครื่องปั๊มน้ำในแต่ละโครงการ ซึ่งปกติทุก ๆ ปี บริษัทจะกันงบไว้ 1% ของยอดขายสำหรับใช้ในกรณีฉุกเฉินต่าง ๆ
นอกจากนั้น บริษัทยังอยู่ระหว่างการศึกษาพัฒนาโครงการใหม่ในต่างจังหวัด ซึ่งได้ดูทำเลไว้ทั้ง 4 ภาค คาดว่าในปีนี้จะสามารถเปิดโครงการแรกได้
"โครงการใหม่ ๆ ที่เราจะเปิดนับจากนี้จะเน้นทาวน์เฮ้าส์และคอนโดมิเนียม เพราะบ้านเดี่ยวเรามีโคงการในมือเยอะแล้ว ตออนนี้มีสต็อกบ้านเดี่ยวอยู่ 96 ยูนิต มูลค่ารวม 700 ล้านบาท และปีนี้จะมีเปิดอีก 2 โครงการ นอกจากนี้เราก็อยู่ระหว่างการศึกษาการเปิดโครงการในต่างจังหวัด กำลังศึกษาอยู่ทั้ง 4 ภาค ปีนี้คงได้เห็นโครงการแรกในต่างจังหวัด อย่างอุดรธานีก็น่าสนใจ ถือเป็น hub ในอินโดจีน"นายวิทการ กล่าว