นายฉัตรชัย พันธัย ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการเงินและบัญชี บมจ.บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ(BAFS) คาดว่า ในปี 55 อัตรากำไรสุทธิจะโตมากกว่า 25% จากปีก่อนที่อยู่ในระดับ 21.9% เนื่องจากบริษัทได้รับจากการปรับลดภาษีนิติบุคคลจาก 30% เหลือ 23% ประกอบกับการควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดี
สำหรับรายได้ปีนี้คาดว่าจะเติบโต 4-5% จากปีก่อนที่มีรายได้ 2.4 พ้นล้านบาท ทั้งนี้ เป็นการเติบโตในทิศทางเดียวกับปริมาณการเติมน้ำมันที่คาดว่าจะเติบโต 3.8% จากปีก่อนที่ 4.6 พันล้านลิตร โดยยังไม่รวมเที่ยวบินชาร์ตเตอร์ไฟลท์ ทั้งนี้ บริษัทมีส่วนแบ่งตลาดให้บริการเติมน้ำม้นที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 85%
บริษัทตั้งงบลงทุน 60 ล้านบาทในปีนี้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการพัฒนาระบบไฟ 30 ล้านบาท ที่เหลือเป็นการซ่อมบำรุงตามปกติ
"ช่วงมกราคม-กุมภาพันธ์ ปริมาณเติมน้ำมันดีกว่าที่คาดไว้ จากเดิมที่คาดไว้คงไม่โต แต่กลับโตได้ราว 4% ซึ่งถือว่าดีกว่าที่คาด และปัญหาเศรษฐกิจโลก ไม่ได้กระทบมากนัก เพราะในภูมิภาคเอเชียเจริญเติบโตดีมาก ทำให้จำนวนเที่ยวบินเพิ่มมากขึ้น"นายฉัตรชัย กล่าว
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังไม่มีแผนการปรับขึ้นค่าบริการเติมน้ำมัน รวมถึงไม่มีแผนปรับโครงสร้างทางการเงิน โดยอยู่ระหว่างจ่ายคืนหนี้เดิม ที่มีต้นทุนทางการเงินในระดับที่น่าพอใจอยู่แล้ว
สำหรับการลงทุนเพิ่มใน บริษัท ขนส่งน้ำมันทางท่อ จำกัด(FPT)ซึ่งบริษัทผู้ถือหุ้น 16.67%และให้บริษัทย่อยเข้าซื้อหนี้ FPT ในวงเงินไม่เกิน 850 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทเห็นว่าธุรกิจนี้สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริษัทได้ในระยะยาว แม้ว่าบริษัทนี้จะมีหนี้สินจำนวนมากแต่ก็มีกระแสเงินสดในระดับสูง และการซื้อหุ้นครั้งนี้เป็นการป้องกันความเสี่ยง เรื่องการขนส่งน้ำมันทางท่อของบริษัทด้วย ทั้งนี้ หลังการเข้าซื้อหนี้เสร็จสิ้นจะทำให้ BAFS เป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ 95%