ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (8 มี.ค.) ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 2 วันทำการ หลังจากธนาคารกลางอังกฤษมีมติคงอัตราดอกเบี้ยและโครงการซื้อพันธบัตร นอกจากนี้ ตลาดยังดีดตัวขึ้นรับข่าวความคืบหน้าเกี่ยวกับการปรับโครงสร้างหนี้กรีซ
ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 5,859.73 จุด เพิ่มขึ้น 68.32 จุด
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกติดต่อกัน 2 วันทำการ หลังจากธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) มีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ 0.5% ในการประชุมวันนี้ และได้คงโครงการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) วงเงิน 3.25 แสนล้านปอนด์ ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (MPC) ช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย
นักวิเคราะห์หลายรายคาดการณ์ว่า คณะกรรมการนโยบายการเงินของแบงก์ชาติอังกฤษจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยต่อไปอีกอย่างน้อย 1 ปี และคาดว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงโครงการ QE ไปจนกว่าจะถึงเดือนพ.ค.นี้ ซึ่งเป็นช่วงที่การอัดฉีดเงินสดเข้าสู่ระบบครั้งล่าสุดจะเสร็จสมสมบูรณ์
ตลาดหุ้นลอนดอนยังได้รับปัจจัยบวกจากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่กรีซว่า เกือบ 95% ของผู้ถือพันธบัตรของกรีซ ได้ตกลงที่จะมีส่วนในโครงการสว็อปพันธบัตร ด้วยการยอมรับการขาดทุนตามเงื่อนไขการปรับลดมูลค่าหน้าตั๋วพันธบัตรของรัฐบาลกรีซลง 53.5% โดยสัดส่วน 95% ของกลุ่มผู้ถือพันธบัตรนั้น อยู่ในระดับสูงกว่าที่รัฐบาลกรีซตั้งเป้าเอาไว้ที่ 90% ซึ่งโครงการดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะบรรเทาภาระหนี้สินของกรีซ
หุ้นวิลเลียม เมอร์ริสัน ซูเปอร์มาร์เก็ต ดีดตัวขึ้น 1.7% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการปี 2554 เพิ่มขึ้น หุ้นเออาร์เอ็ม โฮลดิงส์ ซึ่งเป็นผู้ออกแบบชิพที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ iPad ของบริษัทแอปเปิล ทะยานขึ้น 3.6% หลังจากมอร์แกน สแตนลีย์ ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นเออาร์เอ็มขึ้นสู่ระดับ “overweight" จากระดับ “equalweight" เพราะได้แรงหนุนจากการประกาศเปิดตัว iPad 3 เมื่อวันพุธที่ผ่านมา
หุ้นเอวิวา ซึ่งเป็นบริษัทประกันภัยรายใหญ่อันดับ 2 ของอังกฤา พุ่งขึ้น 1.6% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด ขณะที่หุ้นเอ็กสตราต้าในกลุ่มเหมืองแร่พุ่งขึ้น 1.8%