นายกังวาล กุศลธรรมรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อินเตอร์เนชั่นแนล รีเสริช คอร์ปอเรชั่น(IRCP) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าปี 55 รายได้เติบโต 20% จากปี 54 ที่มีรายได้ราว 1.2 พันล้านบาท เนื่องจากอุตสาหกรรมไอทีกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง โดยขณะนี้หน่วยงานทุกภาคส่วนจำเป็นต้องซื้อสินค้าเข้าไปทดแทนส่วนที่เสียหายจากเหตุการณ์น้ำท่วมเมื่อช่วงไตรมาส 4/54 ที่ผ่านมา
นอกจากนี้องค์กรใหญ่ทั้งภาครัฐและเอกชนเริ่มหันมาสนใจในการลงทุนติดตั้งการกู้ระบบและข้อมูลจากภัยพิบัติ รวมถึงการขยายตัวของระบบประมวลผลในรูปแบบการให้บริการเพื่อแบ่งปันทรัพยากร ซอฟท์แวร์ และข้อมูลต่างๆสำหรับคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ อีกทั้งปีนี้จะระบบโทรคมนาคมจะมีการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่เทคโนโลยี 3จี จึงเป็นอีกปัจจัยบวกต่อการทำธุรกิจของบริษัท
สำหรับกลยุทธ์การทำธุรกิจในปีนี้ บริษัทมีแผนขยายธุรกิจที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ลูกค้า ซึ่งลูกค้าทุกรายจะได้รับบริการครบวงจร ตั้งแต่การให้คำปรึกษาในการออกแบบระบบ การพัฒนาระบบ การบำรุงรักษา และการฝึกอบรม เป็นต้น
ทั้งนี้ บริษัทมีงานในมือ(backlog) ณ สิ้นปี 54 มูลค่าราว 200 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้เป็นรายได้ในไตรมาส 1/55 กว่า 100 ล้านบาท ส่วนที่เหลือคงรับรู้ฯ ทั้งหมดในไตรมาส 2/55 และตั้งแต่ต้นปีบริษัทได้รับงานใหม่เพิ่มเข้ามาคิดเป็นมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท และในช่วงที่เหลือของปีนี้บริษัทเตรียมเข้าประมูลงานใหม่มุลค่ารวมกว่า 2 พันล้านบาท ซึ่งบริษัทหวังได้รับงานราว 50-60% ของมูลค่างานที่ยื่นประมูล
นายกังวาล กล่าวว่า บริษัทคาดว่าในปีนี้อัตรากำไรขั้นต้น(มาร์จิ้น)จะเพิ่มขึ้นเป็น 20% จากปีก่อนที่ 15.40% หลังจากบริษัทใช้แผนเลือกรับงานที่มีมาร์จิ้นสูงขึ้น และจะรับงานที่เป็นคู่สัญญาโดยตรง โดยแต่ละโครงการที่บริษัทจะเข้าร่วมประมูลนั้นจะต้องมีมาร์จิ้นเฉลี่ยโครงการละประมาณ 15%
"อัตรากำไรขั้นต้นเมื่อปีที่แล้วลดลงมาอยู่ที่ 15.40% จากปีก่อนหน้านั้นที่ 19.99% เนื่องจากเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมทำให้บริษัทต้องหันไปรับงานต่อจากคนอื่น ไม่ได้รับงานโดยตรง มาร์จิ้นจึงไม่ค่อยดี แต่ปีนี้เราจะรับงานที่มีมาร์จิ้นสูงพวกงานให้คำปรึกษา ออกแบบติดตั้งและควบคุมงานเอง เป็นคู่สัญญาเองซึ่งจะมีมาร์จิ้นสูง"นายกังวาล กล่าว
บริษัทวางแผนระยะยาว 5 ปีโดยตั้งเป้าหมายรายได้แตะ 1 หมื่นล้านบาทภายในปี 60 หลังประเมินว่าเมื่อคณะกรรมการกิจการวิทยุกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (กสทช.) มีการเปิดประมูลไลเซ่นโครงการ 3จี ในปีนี้จะทำให้มีโครงการต่างๆออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแต่ละโครงการก็น่าจะมีมูลค่าลงทุนค่อนข้างสูง
นอกจากนั้น เชื่อว่าผู้ประกอบการต่างๆในธุรกิจเดียวกับบริษัทก็น่าจะมีจำนวนลดลงหลังกฎระเบียบในการเข้าร่วมประมูลงานน่าจะมีความเข้มงวดขึ้น ประกอบกับในอนาคตบริษัทมีแผนขยายเข้าไปรับงานในต่างประเทศ โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษาเพื่อเข้าไปลงทุนในประเทศลาว, พม่า เพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 58
นายกังวาล กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทกำลังอยู่ระหว่างเจรจาเพื่อควบรวมกิจการกับพันธมิตรในประเทศ ซึ่งเป็นบริษัทนอกตลาดหลักทรัพย์จำนวน 2-3 ราย เพื่อเข้าไปรับงานภาคเอกชนเพิ่มขึ้น ซึ่งพันธมิตรแต่ละรายนั้นมียอดขายประมาณ 100-200 ล้านบาท โดยคาดว่าภายในปีนี้น่าจะตกลงเรื่องการควบรวมกิจาการกับพันธมิตรได้อย่างน้อย 1 ราย ซึ่งจะช่วงเพิ่มสัดส่วนรายได้จากการรับงานภาคเอกชนในปี 56 เพิ่มเป็น 30% จากปีนี้อยู่ที่ 20%
"ตอนนี้เราก็กำลงเจรจากับพันธมิตรเพื่อควบรวมกิจการอยู่ 2-3 ราย ปลายปีนี้ก็น่าจะจบสัก 1 ราย เพื่อเข้าไปรับงานภาคเอกชน เราก็จะได้รับประโยชน์จาก knowhow และฐานลูกค้าของเขา และเราก็จะได้ไม่ต้องมาแข่งขันกันเอง...ตั้งแต่ผมเข้ามารับตำแหน่ง 10 ไตรมาส ก็พยายช่วยบริษัทให้รอดชีวิตจากที่มีขาดทุนสะสม ปีที่แล้วก็กลับมามีกำไร ก็ส่งผลดีต่อพนักงานและผู้ถือหุ้น step ต่อไปก็ต้องนึกถึงการเติบโตของบริษัท ก็คงเป็นเรื่องการควบรวมกิจการและก้าวเข้าสู่ SET ในที่สุด"นายกังวาล กล่าว