SAMCO ตั้งเป้าปี 55 รายได้ 890 ลบ. จาก 680 ลบ.ในปี 54

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday March 12, 2012 14:04 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกิตติพล ปราโมช ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการ บมจ.สัมมากร (SAMCO) เปิดเผยว่า ในปี 55 บริษัท ตั้งเป้ามีรายได้ที่ประมาณ 890-900 ล้านบาท จากปี 54 ที่มีรายได้ที่ 680 ล้านบาท และคาดว่าจะมีกำไรสุทธิปี 55 ที่ 80-90 ล้านบาท จากอัตรากำไร(มาร์จิ้น)ที่คาดว่าอยู่ที่ 10%

ในปีนี้บริษัทมีแผนเปิดโครงการใหม่เป็นบ้านเดี่ยวเพียง 1 โครงการ มูลค่าโครงการ 700 ล้านบาท อยู่ในพื้นที่ถนน 345 ย่านปทุมธานี จำนวน 170 ยูนิต ราคาขายหลังละ 2.6-2.7 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการที่ชะลอมาจากปีก่อนหลังเกิดน้ำท่วม คาดว่าจะเปิดโครงการในไตรมาส 3/55 เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่มีน้ำท่วมอีก

"ในปีนี้บริษัทมีแผนเปิดโครงการเพียง 1 โครงการซึ่งได้เลื่อนมาจากปีก่อน เพราะน้ำท่วม ทำให้ต้องมีการปรับปรุงพื้นที่โดยรอบโครงการ เช่นมีการรื้อรั้วใหม่ คาดว่าจะเปิดโครงการในไตรมาส 3 เพื่อให้มั่นใจว่าน้ำจะไม่ท่วมอีก และปัจจุบันบริษัทมีบ้านสต็อคพร้อมขายเป็นมูลค่าประมาณ 5 พันล้านบาท"นายกิตติพล กล่าว

อย่างไรก็ตาม หลังเกิดสถานการณ์น้ำท่วมในปลายปี 54 ทำให้บริษัทมีแผนจะพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม ทาวน์เฮ้าส์ และรุกต่างจังหวัด คาดว่าจะมีข้อสรุปที่ชัดเจนภายในปีนี้และปีหน้า ซึ่งโครงการคอนโดมิเนียม จะเน้นพัฒนาโครงการตามแนวรถไฟฟ้า ส่วนในต่างจังหวัดปัจจุบันบริษัทมีที่ดินที่พัทยาพร้อมพัฒนาโครงการอยู่แล้ว

นอกจากนี้ ยังมีแผนจะเพิ่มสัดส่วนรายได้จากธุรกิจให้เช่าจากการพัฒนาโครงการคอมมูนิตี้มอลล์ ซึ่งปัจจุบันจะมีรายได้ค่าเช่าอยู่ที่ 6-7 ล้านบาท/เดือน ตั้งเป้าให้มีรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 10-15 ล้านบาท/เดือน เพื่อช่วยชดเชยค่าใช้จ่ายประจำ ในปีนี้คาดว่าบริษัทจะมีรายได้ค่าเช่าอยู่ที่ 60 ล้านบาท

สำหรับ"ศูนย์การค้าเพียวเพลส ราชพฤกษ์"ของบริษัท เพียว สัมมากร ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ซึ่งเป็นคอมมูนิตี้มอลล์แห่งที่ 3 ของบริษัท อยู่ภายใต้แนวคิด The Green Living Mall ตั้งเป้าหมายที่จะมีรายได้เบื้องต้น เฉลี่ย 700-800 บาท/ตร.ม./เดือน โดยคาดว่าใช้เวลาถึงจุดคุ้มทุนภายใน 6-7 ปี ขณะนี้มีผู้ประกอบการสนใจเช่าพื้นที่แล้วประมาณ 80%

และตามแผนของบริษัทที่จะเปิดคอมมินิตี้มอลล์ อีก 2 แห่งในปี 56 คาดว่าใช้เงินลงทุนแห่งละ 200 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาทำเลเพื่อการพัฒนาโครงการ โดยจะเน้นพื้นที่ที่มีชุมชนมาก มีจำนวนชุมชุนอย่างน้อย 150,000 ครัวเรือนภายในรัศมี 5 กม. หรือบริเวณที่มีหมู่บ้านระดับ B+

"ยอมรับว่าตลาดคอมมูนิตี้มอลล์ ตอนนี้ไม่ใช่เทรนด์ แต่ถือเป็นส่วนหนึ่งที่ชุมชนต้องการ เพราะเมื่อมีหมู่บ้านใหม่เกิดขึ้น ก็จะมีการเปิดห้างเล็กๆตามมา เพราะเปิดง่าย ใช้เวลาก่อสร้างไม่นาน...คอมมูนิตี้มอลล์ตอนนี้ยอมรับว่ามีการแข่งขันสูง ดังนั้นจึงต้องพิจารณาเรื่องทำเลที่ต้องได้พื้นที่ดีจริงๆ แต่ทำเลดีๆ ก็จะมีค่าที่ดินแพง ดังนั้นของบริษัทก็จะเป็นการเช่าที่ดิน ซึ่ง ทั้ง 3 แห่ง ได้เช่าจากสัมมากร" นายกิตติพล กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ