นางสาวสุธิภา วัชโรทยางกูร ผู้จัดการ Portfolio Management Department บมจ.เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ (BJC) เปิดเผยว่าในปี 55 บริษัทคาดว่ารายได้จะเติบโต 20% จากปีก่อนที่มีรายได้ 3.1 หมื่น่ล้านบาท โดยรายได้หลักยังคงมาจากธุรกิจบรรจุภัณฑ์ สินค้าอุปโภคบริโภค รวมถึง เวชภัณฑ์
ในปีนี้ คาดว่าธุรกิจบรรจุภัณฑ์จะมีการเติบโตอย่างโดดเด่น เนื่องจากโรงงานผลิตกระป๋องในเวียดนามจะเริ่มเดินเครื่องผลิตในเดือน พ.ค.นี้ กำลังการผลิต 850 ล้านกระป๋องต่อปี โดยเบื้องต้นจะเดินเครื่อง 50% และปลายปีนี้เดินเครื่องได้ 85%
นอกจากนี้จะเป็นการเติบโตจากการเข้าซื้อกิจการ Asia Book เนื่องจากปีก่อน บริษัทรับรู้รายได้ประมาณครึ่งปี แต่ปีนี้จะรับรู้รายได้เต็มปี
อย่างไรก็ตาม ในปี 55 บริษัท จะพยายามรักษาอัตรากำไรขั้นต้นไว้ที่ระดับ 26.4% ใกล้เคียงปีก่อน แม้ว่าต้นทุนพลังงานจะปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ทั้งราคาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ซึ่งบริษัทพยายามติดตามสถานการณ์ และมีการทำประกันความเสี่ยงไว้บางส่วน
ทั้งนี้ บริษัทจะปรับขึ้นราคาสินค้าโดยเฉลี่ยปีนี้ เฉลี่ย 3-5% แต่ยอมรับว่าสินค้าบางส่วนที่เป็นสินค้าอุปโภคบริโภคปรับราคาสินค้าไม่ทันกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ธุรกิจบรรจุภัณฑ์สามารถปรับราคาได้ต่อเนื่อง ตามราคาวัตถุดิบ เพราะได้มีการตกลงลูกค้าไว้ล่วงหน้า
สำหรับงบลงทุนปี 55 คาดว่าจะลงทุน 3 พันล้านบาท โดยยังไม่รวมการเข้าซื้อกิจการ ทั้งในและต่างประเทศ โดยงบดังกล่าว แบ่งเป็นการลงทุนในโรงงานผลิตกระป๋องในเวียดนาม ที่จะเปิดในเดือนพ.ค.นี้ จำนวน 1.5 พันล้านบาท และอีก 1.5 พันล้านบาท จะใช้ลงทุนในการย้ายเตาเผาผลิตแก้วจากโรงงานที่ราษฎร์บูรณะไปที่จ.สระบุรี 1 เตา
"การเข้าซื้อกิจการ ยังคงดูอยุ่ต่อเนื่อง ตอบไม่ได้ว่าสรุปเมื่อไร ซึ่งบริษัทมีความพร้อมทางการเงิน โดยยังใช้วิธีทางการเงินที่หลากหลายได้เพราะเงินลงทุนปีนี้ ยังคงใช้เงินจากกระแสเงินสด 3 พันล้านบาทเท่านั้น" นางสาวสุธิภา กล่าว