สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยวันนี้มีมูลค่าการซื้อขายรวม 48,606 ล้านบาท โดยประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดของวัน คือ พันธบัตร ธปท. มีมูลค่าการซื้อขาย 41,121 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 85% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้
สำหรับประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายเป็นลำดับถัดมาคือ พันธบัตรรัฐบาล มีมูลค่า 5,099 ล้านบาท โดยพันธบัตรรัฐบาลรุ่นอายุคงเหลือประมาณ 1 ปี 3 ปี และ 15 ปี (LB155A LB15DA และLB176A) เป็นที่นิยมซื้อขายสูงสุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 3,054 ล้านบาท หรือคิดเป็น 60% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ส่วนตั๋วเงินคลังมีมูลค่าการซื้อขาย 692 ล้านบาท ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน มีมูลค่าการซื้อขายรวม 687 ล้านบาท โดยหุ้นกู้ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรก คือ หุ้นกู้ของ บริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จำกัด (มหาชน) (AYCAL145A) หุ้นกู้ของบริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด (TLT12DA) และหุ้นกู้ของ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (PTTC153A) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 644 ล้านบาท หรือคิดเป็น 94% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมด
นักลงทุนกลุ่มกองทุนมีสถานะซื้อสุทธิ 3,412 ล้านบาท นักลงทุนกลุ่มบริษัทจดทะเบียนในประเทศมีสถานะซื้อสุทธิ 1,960 ล้านบาท และกลุ่มของนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะซื้อสุทธิ 12,721 ล้านบาท
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Yield) ปรับตัวเพิ่มขึ้นในตรสารอายุตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป หรือโดยเฉลี่ยแล้วปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 1 ถึง 5 Basis Point เนื่องจากมีแรงขายก่อนที่จะรอกลับเข้าซื้อพันธบัตรระยะกลางที่จะมีการประมูลในช่วงสัปดาห์นี้ สำหรับนักลงทุนต่างประเทศยังคงมีแรงซื้อพันธบัตรระยะสั้นที่มีการประมูลไปเมื่อวันศุกร์
ทั้งนี้อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอายุคงเหลือ 3 เดือน ปิดคงที่ที่ 3.02% และอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอายุคงเหลือ 5 ปี ปิดที่ 3.42% ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.03% จากวันทำการก่อนหน้า