TPOLYคาดปี 56อัตรากำไรสุทธิพุ่งเป็น 5%จาก3.5%ปี 55โรงไฟฟ้า-อสังหาฯหนุน

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday March 14, 2012 12:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเจริญ จันทร์พลังศรี กรรมการผู้จัดการ บมจ.ไทยโพลีคอนส์ (TPOLY) เปิดเผยว่า ในปี 56 ตั้งเป้ารายได้ที่ 3.7 พันล้านบาท คาดจะมีอัตรากำไรสุทธิกว่า 5% และมีกำไรสุทธิ 130 ล้านบาท เนื่องจาก บริษัทจะมีการรับรู้รายได้จากโครงการอสังริมทรัพย์ที่รามอินทรา ที่คาดจะเริ่มรับรู้รายได้ในไตรมาส 4/55 และปี 56 จะรับรู้รายได้เต็มปี ขณะที่โรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวลจะเสร็จ 1 แห่งที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ในปี 56 คาดรับรู้รายได้เต็มปี

สำหรับโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวลทั้ง 4 แห่งที่อยู่ในแผนนั้น จะก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 57 และเริ่มรับรู้รายได้ทั้งหมดในปี 58

ส่วนปี 55 บริษัทคาดว่าจะมีรายได้ 3 พันล้านบาท เพิ่มจากปีก่อนที่ 2.5 พันล้านบาท ส่วนอัตรากำไรสุทธิคาดอยู่ที่ระดับ 3.5% จากปีก่อนที่ระดับ 1.96% และคาดว่ากำไรสุทธิจะอยู่ที่ 105 ล้านบาท จากปี 54 มีกำไร 49 ล้านบาท

นายเจริญ กล่าวว่า บริษัทยังมองหาโอกาสในการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวลเพิ่มเติม รวมทั้งการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ด้วยในปีนี้เพื่อดำเนินโครงการาต่อเนื่อง

"ในปีนี้ TPOLY มีแผนที่จะรุกขยายธุรกิจครั้งสำคัญ เพื่อเป็นการสร้างรากฐานที่มั่นคงแข็งแกร่งควบคู่ไปกับการเติบโตที่ยั่งยืนในอนาคตให้กับบริษัท โดยธุรกิจที่เตรียมบุกและน่าจะได้เห็นภาพที่ชัดเจนในปีนี้คือ ธุรกิจพลังงานยังคงรุกหน้าอย่างต่อเนื่องโดยคาดการณ์ว่าในปี 55 จะสามารถเริ่มก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลแห่งใหม่ได้อีก 1 ถึง 2 โครงการ โดยปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนในการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ(Feasibility Study) จากที่ปัจจุบันบริษัทได้ทำการศึกษาอยู่ 4 โครงการ"นายเจริญ กล่าว

นอกจากนี้ บริษัทคาดว่าในปีนี้จะเข้าประมูลงานใหม่ประมาณ 1.4 หมื่นล้านบาท โดยคาดว่าจะได้งานประมาณ 3.5 พันล้านบาท หรือคิดเป็น 25%ของงานที่เข้าประมูล ซึ่งถือว่าน้อยกว่าในอดีต เนื่องจากบริษัทต้องการรับงานรับเหมาก่อสร้างโครงการที่ให้อัตรากำไรขั้นต้นและอัตรากำไรสุทธิในระดับที่ดีเท่านั้นเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาอัตรากำไรสุทธิลดลงเหมือนในปี 54 ทั้งนี้ คาดว่า ในสิ้นปี 55 จะมีมูลค่างานคงค้างในมือ อยู่จำนวน 5 พันล้านบาท

นายเจริญ กล่าววา คณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติวงเงินขายหุ้นกู้ไม่เกิน 1 พันล้านบาท อายุไม่เกิน 5 ปี เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนและการขยายธุรกิจในอนาคต โดยปัจจุบันบริษัทมีอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) ไม่ถึง 2 เท่าซึ่งถือว่าต่ำในบริษัทรับเหมาก่อสร้างอื่น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ