SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,164.23 จุด เพิ่มขึ้น 10.67 จุด(+0.92%)มูลค่าการซื้อขาย 17,270.24 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวในแดนบวกตามตลาดหุ้นต่างประเทศ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)แสดงท่าทีแนวโน้มภาวะเศรษฐกิจที่ดี ด้านหนี้ยุโรปก็คลี่คลายหลังกรีซได้วงเงินช่วยเหลือ ด้านปัจจัยในประเทศ ยังต้องติดตามเม็ดเงินต่างชาติหลังซื้อสะสมมาก-ราคาหุ้นไทยแพง แต่อย่างไรก็ตาม ตลาดในช่วงบ่ายยังแกว่งในแดนบวก แต่อาจเห็นขายทำกำไรบ้าง สลับซื้อหุ้นกลุ่มสื่อสารรับข่าวประชุม กสทช.พร้อมให้แนวรับ 1,160 จุด แนวต้าน 1,165 -1,170 จุด โดยแนะขายทำกำไร
ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,164.23 จุด เพิ่มขึ้น 10.67 จุด(+0.92%)มูลค่าการซื้อขาย 17,270.24 ล้านบาท การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวในแดนบวกตลอดช่วงเช้า โดยแตะจุดสูงสุดของช่วงเช้าที่ 1,166.99 จุด และแตะจุดต่ำสุดของช่วงเช้าที่ระดับ 1,160.87 จุด
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล นักวิเคราะห์สำนักวิจัย บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ภาวะตตลาดหุ้นไทยในวันนี้ปรับเพิ่มขึ้นมาก โดยเป็นการปรับเพิ่มขึ้นตามตลาดหุ้นต่างประเทศโดยเฉพาะตลาดหุ้นดาวโจนส์ที่บวกกว่า 200 จุด เนื่องจากได้รับปัจจัยหนุน จากธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)มีมุมมองในเชิงบวกในการเติบโตของเศรษฐกิจ ด้วยการใช้นโยบายดอกเบี้ยต่ำ 0-0.25% ในระยะยาวถึงปี 57 ประกอบกับ ปัญหาหนี้ยุโรปก็คลี่คลายหลังได้รับอนุมัติเงินกู้รอบ 1.3 แสนยูโร ซึ่งเป็นวงเงินรอบที่ 2 หนุนให้บรรยากาศตลาดหุ้นทั่วโลกปรับเพิ่มขึ้น
ส่วนปัจจัยในประเทศ มองว่าตลาดยังอยู่ในแดนบวก หุ้นกลุ่มสื่อสารจะมีแรงซื้อต่อเนื่อง เพราะตลาดคาดหวังผลการประชุม กสทช.ในเรื่องแผนแม่บททั้งความถี่ และกิจการโทรคมนาคม ฯลฯ
อย่างไรก็ตาม ภายใต้การซื้อสะสมของต่างชาติตั้งแต่ต้นปี 5.9 หมื่นล้านบาท และราคาหุ้นไทยที่แพง P/E 12.2 เท่า อาจเห็นการขายทำกำไรออกมา ดังนั้น จึงแนะนำติดตามกระแสเงินทุนไหลเข้าของต่างชาติว่าจะมีอย่างต่อเนื่องหรือไหม
"วันนี้ตลาดต่างประเทศบวกค่อนข้างแรง ดาวโจนส์บวกขึ้นมา 200 กว่าจุด เป็น sentiment ที่เป็นตัวช่วยขับเคลื่อนตลาดระยะสั้นให้รีบาวด์กลับได้ และยังมีลุ้นข่าวในเชิงบวกของ กสทช.ในเรื่องการพิจารณาแผนแม่บท ที่ทำให้หุ้นกลุ่มสื่อสารมีแรงซื้อ"นายอภิชาติ กล่าว
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ ตลาดฯคงจะแกว่งตัวในแดนบวก แต่ก็อาจเห็นขายทำกำไร โดยมีแนวรับที่ 1,160 จุด แนวต้าน 1,165 -1,170 จุด โดยแนะขายทำกำไร
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
JAS มูลค่าการซื้อขาย 1,429.85 ล้านบาท ปิดที่ 2.74 บาท เพิ่มขึ้น 0.04 บาท
KTB มูลค่าการซื้อขาย 959.88 ล้านบาท ปิดที่ 17.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.02 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 867.10 ล้านบาท ปิดที่ 349.00 บาท เพิ่มขึ้น 7.00 บาทADVANC มูลค่าการซื้อขาย 679.88 ล้านบาท ปิดที่ 169.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
TOP มูลค่าการซื้อขาย 649.41 ล้านบาท ปิดที่ 70.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท