โบรกเกอร์เชียร์หุ้น บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ป์ปอเรชั่น ( SC ) มองมีการเติบโตที่ดีในช่วง 1- 2 ปีข้างหน้า และเป็นหุ้นที่เด่นในด้าน Growth Stock-Dividend Yield ที่ดี โดยประเมินรายได้และกำไรในปี 55 จะโดดเด่น จากการที่มีกลยุทธ์สร้างบ้านก่อนขาย หนุนรายได้ค่อนข้างเร็ว ขณะที่ไตรมาส 1 /55 จะเติบโตค่อนข้างมากเพราะจะมีการทยอยการโอนจากโครงการในไตรมาส 4 /54 ที่เลื่อนจากน้ำท่วม รวมกับคอนโดมิเนียมที่มีกำหนดแล้วเสร็จพร้อมโอนฯปี 55 อีก 3 แห่ง ขณะที่ยอดขายรอโอน ( (backlog)ที่ยกมาจากสิ้นปี 54 สูง กว่า 3 พันล้านบาท ด้านสถานการณ์น้ำท่วมในช่วงที่ผ่านมาไม่ได้กระทบโดยตรงกับโครงการของ SC จึงเป็นจุดที่ทำให้มีผู้สนใจซื้อมากขึ้น โดยปี 55 จะมีการรับรู้รายได้จากการโอนคอนโดมิเนียมมาก ขณะที่เดินหน้าเปิดโครงการใหม่ต่อเนื่อง 16 โครงการ รวมมูลค่า 1.6 หมื่นล้านบาท ทั้งในกรุงเทพฯ รูปแบบคอนโดทาวน์-ทาวน์โฮม รวมทั้งมีการรุกตลาดต่างจังหวัดเพิ่มเป็น 1 คอนโดฯ ที่หัวหิน และ 1 บ้านเดี่ยวที่ ชะอำ ซึ่งเป็นการรองรับการเติบโตของผลประกอบการในปี 55-56 พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิปี 55 โดยโบรกเกอร์ส่วนใหญ่มองกำไรสุทธิจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งในระดับการเติบโต 17 - 23% YoY ในปี 55 นอกจากนี้ยังได้รับผลบวกจากภาษีนิติบุคคลที่ลดเหลือ 23% จากเดิม 30% ด้วย
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น)
บล.เอเชีย พลัส ซื้อ 17.82
บล.บัวหลวง ซื้อ 17.00
บล.ดีบีเอส ฯ ซื้อ 16.34
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์ บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า มีมุมมองในเชิงบวกต่อการเติบโตของ SC หลังจากพบผู้บริหาร ซึ่งมองว่าเป็นหุ้นในปี 55 ที่เติบโตต่อเนื่องทั้งในด้าน Growth Stock ที่ให้ผลตอลแทนเงินปันผลสูง เหมาะสำหรับการลงทุนในระยะยาว และเป็นหุ้น Dividend Yield ที่ดี โดยการเติบโตกระจายในทุกเซ็กเม้นท์ ทั้งคอนโด และแนวราบ อีกทั้งในปี 55 เริ่มกระจายการพัฒนาในต่างจังหวัดเพิ่ม ซึ่งเป็นจุดเด่นในการสร้างรายได้ในอนาคตใน 1- 2 ปีข้างหน้า
ทั้งนี้การที่ SC เจาะกลุ่มลูกค้าระดับกลาง - บน ซึ่งเป็นกลุ่มที่ยังมีดีมานด์ที่ค่อนข้างมาก และโครงการส่วนใหญ่มีโลเคชั่นที่ดี ไม่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในช่วงที่ผ่านมาเมื่อเทียบกับรายอื่น ด้านโครงการในปี 55 เปิดต่อเนื่อง และยอด Backlog ที่มากถึงกว่า 3 พันล้านบาท โอนในปี 55 มากถึง 1.6 พันล้าน หนุน
แผนในปี 2555 SC จะเปิดตัวโครงการใหม่อีก 16 โครงการ ซึ่ง มี 2 โครงการในต่างจังหวัดคือ 1 คอนโดฯ ที่หัวหิน และ 1 บ้านเดี่ยวที่ ชะอำ เพื่อรองรับการเติบโตของผลประกอบการในปี 55-56 มูลค่ารวม1.71 หมื่นล้านบาท ซึ่ง ทำให้ภาพรวมสินค้าที่จะเตรียมสำหรับการขายในปี 55 จะมีจำนวนทั้งสิ้น 32 โครงการ มูลค่า 2.87 หมื่นล้านบาท ดังนั้น Presale ปี 55 น่าจะทำได้ตามที่ประเมินที่ระดับ 1 หมื่นล้านบาท แยกเป็นแนวราบ 6 พันล้านบาท และคอนโดฯ 4 พันล้านบาท
นายเทิดศักดิ์ กล่าวต่อว่า จะเริ่มเห็นการโอนในไตรมาส 1/55 จากโครงการ The Crest ร่วมฤดี ที่สร้างในปีก่อน และจะมีอีก 3 คอนโดมิเนียมที่มีกำหนดแล้วเสร็จพร้อมโอนฯปี 55 ได้แก่ Centric รัชดาฯ-สุทิสาร, The Crest พหลฯ11 และ The Crest สุขุมวิท49 ขณะที่สิ้นปี 2554 โครงการดังกล่าวมีBacklog ประมาณ 1.43 พันล้านบาท ซึ่งจะเป็นแรงหนุนให้การบันทึกรายได้งวดปี 2555 ปรับขึ้น17% YoY ด้านรายได้จากค่าเช่าประเมินยคาดหวังว่าOccupancy Rate จากอาคารชินวัตรทาวเวอร์ 3 น่าจะปรับเพิ่มขึ้นจาก 64% ณ สิ้นปี 2554 มาเป็นเฉลี่ย 70% ในปี 2555
ด้านประสิทธิภาพการทำกำไร คาดหมาย Norm Profit Margin กลับมาที่ 17.1% ซึ่งเป็นระดับปกติ หลังจากที่ปี 2554 ลดลงไปอยู่ที่ 14.6% เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำท่วมเข้ามา 40 ล้านบาท ขณะที่การบันทึกรายได้ชะลอตัวในช่วงน้ำท่วม
ด้านนางสาวนฤมล เอกสมุทร นักวิเคราะห์ฝ่ายหลักทรัพย์ บล.บัวหลวง มองหุ้น SC เป็นหุ้นอีกตัวที่น่าลงทุนในกลุ่มอสังหา ฯ แม้ในไตรมาส 4/54 จะเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมแต่ SC กลับมีการรายงานยอดของซื้อระหว่างไตรมาสสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ถึง 2.4 พันล้านบาท จาก 3 โครงการ ที่สนับสนุน คอนโด ฯ ได้แก่The Centric ติวานนท์, The Crest สุขุมวิท 24 และ The Crest สุขุมวิท 49
และในปี 55 เราประเมินยอดจองซื้อจะแข็งแกร่งต่อเนื่อง หลังจากที่รายงานยอดจองซื้อทำสถิติสูงสุดที่ 8.1 พันล้านบาทในปี 54 เนื่องจากบริษัทยังเปิดตัวโครงการเพิ่มต่อเนื่องในปี 2555โดยจะเปิดตัวโครงการบ้านแนวราบ 12 โครงการและคอนโด 4 โครงการรวมมูลค่า 1.6 หมื่นล้านบาท เรายังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 55 เท่าเดิมโดยคาดว่ากำไรสุทธิจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง 23% YoY ในปี 2555
ประเมินการเติบโตของกำไรสุทธิทั้ง YoY และ QoQ ในไตรมาส 1/55 เด่น โดยจะเปิดตัว 4โครงการบ้านแนวราบ (รวมมูลค่า 2.7 พันล้านบาท) ในไตรมาส 1/55 (เลื่อนมาจากไตรมาส 4/54) ซึ่งจะช่วยหนุนรายได้ค่อนข้างเร็วเนื่องจากบริษัทมีกลยุทธ์สร้างบ้านก่อนขาย ส่วนคอนโด The Crest ร่วมฤดี (มูลค่า287 ล้านบาท) ซึ่งจะยังโอนอย่างต่อเนื่องในไตรมาส1/55 (เริ่มโอนในเดือน ธ.ค. 2555)
นอกจากนี้ การที่ SC เป็นหุ้นซื้อขายที่ PER ถูกมาก โดยนับว่ามีส่วนลดมูลค่าจากค่าเฉลี่ยระยะยาวมากที่สุดในกลุ่ม (ซื้อขายที่ PER ปี 2555 เท่ากับ 7.5 เท่าเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยปี 2548 - 54 ที่ 11.7 เท่า) ส่งผลให้ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายปี 2555 เป็น 17 บาทจาก 16 บาท
--อินโฟเควสท์ โดย จริญยา ดำสมาน/จริญยา/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--