นายชัชวิน พิพัฒน์โชติธรรม ผู้ช่วยประธานกรรมการบริหาร บมจ.ฟอร์ท คอร์ปอเรชั่น(FORTH) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมปี 55 เติบโต 10-15% ที่ 1.1 หมื่นกว่าล้านบาท จากปีก่อนมีรายได้ 8.88 พันล้านบาท โดยรายได้หลักมาจากธุรกิจรับจ้างผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีลูกค้าหลักคือ เวสเทิร์น ดิจิตอล นอกจากนี้ยังมี ฟูจิสึ โซนี่ ซัมซุง และ ไดกิ้น
ปัจจุบัน บริษัทมีงานในมือ(Backlog)มูลค่า 200-300 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นงานของ บมจ.ทีโอที ซึ่งจะรับรู้รายได้ทั้งหมดในปีนี้
รายได้ในปี 55 จะมาจากธุรกิจรับจ้างผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ 7,280 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 62% ของรายได้รวม, ธุรกิจโทรคมนาคม จำนวน 2,300 ล้านบาท คิดเป็น 18%, ธุรกิจ Techno Retail จำนวน 1,600 ล้านบาท และธุรกิจตู้เติมเงิน 600 ล้านบาท
ในปีนี้บริษัทจะใช้เงินลงทุน 500-600 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนตู้เติมเงินประมาณ 200-300 ล้านบาท และเครื่องจักรใหม่ 70 ล้านบาทเพื่อขยายสายงารนการผลิตเพิ่มรองรับออร์เดอร์ของเวสเทิร์นฯ ที่ได้กลับมาผลิตเต็มที่แล้ว หลังจากประสบกับภาวะน้ำท่วม
นายชัชวิน กล่าวว่า ธุรกิจโทรคมนาคมในปีนี้ บริษัทเตรียมยื่นประมูลโครงการบรอดแบรด์แห่งชาติของรัฐบาล ซึ่งรวมมูลค่าที่จะยื่นประมูล 2.03 หมื่นล้านบาท ตั้งเป้าได้งานประมาณ 10% ของงานที่ยื่นประมูล ทั้งนี้งานที่ยื่นประมูลได้แก่ โครงการ School Net ของไอซีที โครงการของ บมจ.กสท โทรคมนาคม และ บมจ.ทีโอที นอกจากนี้ จะมีงานต่อยอดจาก Taplet ได้ก่ การอัพเกรดอุปกรณ์เก่า งานซ่อมบำรุง งานติดตั้ง Wifi
ส่วนธุรกิจ Techno retail ได้แก่ การติดตั้งไฟจราจร CCTV และจอ LED ก็จะมีเพิ่มขึ้น และตู้เติมเงินมือถือยี่ห้อบุญเติม ปีนี้ตั้งเป้าติดตั้งเพิ่มเป็น 2.3-2.5 หมื่นตู้ จากปัจจุบันมี 1.4 หมื่นตู้ โดยจะเพิ่มอีก 8 พันตู้ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันในฟิลิบปินส์มีอยู่ 1 พันตู้ ในเวียดนาม 600 ตู้ และอินโดนีเซียกำลังหาพันธมิตรท้องถิ่นอยู่ รวมทั้งมีโอกาสไปลงทุนในพม่าเพิ่มด้วย โดยปีนี้คาดว่าธุรกิจตู้เติมเงินมือถือจะมีกำไรประมาณ 40 ล้านบาทจากปีก่อนขาดทุน