ตลาดหุ้นนิวยอร์กเปิดบวกในวันนี้ เพราะได้แรงหนุนจากจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปี นอกจากนี้ นักลงทุนยังขานรับข่าว 15 ธนาคารรายใหญ่ของสหรัฐที่ผ่านการทดสอบภาวะวิกฤต (stress test)
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 16.42 จุด หรือ 0.12% แตะที่ 13,194.10 จุด ดัชนี S&P 500 ขยับขึ้น 1.07 จุด หรือ 0.08% แตะที่ 1,395.25 จุด ดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้น 3.31 จุด หรือ 0.11% แตะที่ 3,043.47 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยในวันนี้ว่า ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 10 มี.ค. ลดลง 14,000 ราย มาอยู่ที่ 351,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2551 ตอกย้ำให้เห็นว่าตลาดแรงงานสหรัฐยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง
สำหรับจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์ ทรงตัวอยู่ที่ระดับ 355,750 ราย โดยข้อมูลนี้ถูกมองว่าสามารถวัดแนวโน้มตลาดแรงงานได้ดีกว่า เพราะมีความผันผวนน้อยกว่าตัวเลขรายสัปดาห์
นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกหลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่า มีธนาคารพาณิชย์รายใหญ่ 15 แห่ง รวมถึงเจพีมอร์แกน, แบงก์ ออฟ อเมริกา และโกลด์แมน แซคส์ จากทั้งหมด 19 แห่ง ได้ผ่านการทดสอบภาวะวิกฤติ ส่วนธนาคารไม่ผ่านการทดสอบมีเพียง 4 แห่งเท่านั้น รวมถึง ซิตี้กรุ๊ป และธนาคารเม็ทไลฟ์
การทดสอบภาวะวิกฤติในครั้งนี้ มีเป้าหมายที่จะประเมินว่าธนาคารเหล่านี้มีฐานเงินทุนมากพอที่จะต้านทานภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรงและวิกฤติตลาดที่อยู่อาศัยหรือไม่ และเพื่อประเมินว่าภาคธนาคารมีความสามารถในการปล่อยเงินกู้และยังสามารถดำเนินการตามกฎข้อบังคับด้านการเงินต่อไปได้ แม้ในขณะที่ต้องเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจ
หุ้นกลุ่มการเงิน กลุ่มอุตสาหกรรม และกลุ่มเทคโนโลยี ดีดตัวขึ้น ขณะที่หุ้นกลุ่มสาธารณูปโภค และกลุ่มบริษัทจัดหาสินค้าเพื่อผู้บริโภค ปรับตัวลง
หุ้นนูคอร์ คอร์ป ซึ่งเป็นผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่สุดของสหรัฐเมื่อพิจารณาจากมูลค่าตลาด ร่วงลง 0.8% หลังจากบริษัทปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการ
หุ้นแอปเปิล อิงค์ ดีดตัวขึ้น หลังจากนักวิเคราะห์ได้ปรับเพิ่มการประมาณราคาหุ้นของแอปเปิล