ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (14 มี.ค.) โดยดัชนี Stoxx Europe 600 ดีดตัวขึ้นแตะระดับสุงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. เพราะได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ รวมถึงจำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ที่ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปี และตัวเลขการผลิตที่แข็งแกร่ง ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ทำให้นักลงทุนคาดหวังว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะยังคงขยายตัวได้ดีอย่างต่อเนื่อง
ดัชนี Stoxx 600 พุ่งขึ้น 0.3% ปิดที่ 270.98 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดฝรั่งเศสปิดที่ 3580.21 จุด บวก 15.70 จุด ดัชนี DAX ตลาดเยอรมนีปิดที่ 7144.45 จุด บวก 65.03 จุด และดัชนี FTSE 100 ตลาดลอนดอนปิดที่ 5940.72 จุด ลบ 4.71 จุด
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นเป็นส่วนใหญ่ หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใส รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 10 มี.ค. ลดลง 14,000 ราย มาอยู่ที่ 351,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2551 และดัชนีการผลิตในรัฐนิวยอร์กขยายตัวขึ้นสู่ระดับ 20.2 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2553
อย่างไรก็ตาม แรงบวกในตลาดหุ้นยุโรปถูกจำกัดด้วยข่าวฟิทช์ เรทติงส์ ปรับลดแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของอังกฤษเป็น "เชิงลบ" จากเดิม "มีเสถียรภาพ" ซึ่งบ่งชี้ว่ามีโอกาสสูงกว่า 50% ที่อันดับความน่าเชื่อถือที่ AAA จะถูกปรับลดลงภายในระยะเวลา 2 ปี
หุ้นไฮเดลเบิร์กซีเมนต์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตซีเมนต์รายใหญ่อันดับ 3 ของโลก ดิ่งลง 5.1% แม้บริษัทคาดการณ์ว่ากำไรจากการดำเนินงานและยอดขายจะเพิ่มขึ้นในปีนี้ อันเนื่องมาจากการขยายตัวของเศรษฐกิจในเอเชียและแอฟริกา
หุ้นอินเทซา ซานเปาโล ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่อันดับ 2 ของอิตาลี ดีดตัวขึ้น 4% หลังจากธนาคารเปิดเผยกำไรจากการดำเนินงานในไตรมาส 4 ขยายตัวได้ดีเกินคาด
หุ้นโซดิแอค แอโรสเปซ พุ่งขึ้น 4.8% หลังจากบริษัทเปิดเผยว่าผลประกอบการรายไตรมาสเพิ่มขึ้นแตะระดับ 1.57 พันล้านยูโร ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ที่ 1.56 พันล้านยูโร