บมจ.ทีมพรีซิชั่น(TEAM) มั่นใจว่ารายได้และกำไรสุทธิในปีนี้จะไม่ต่ำกว่าปีก่อน โดยขณะนี้มีคำสั่งซื้อในมือแล้วราว 1.12 พันล้านบาท พร้อมทั้งเตรียมงบลงทุนราว 170 ล้านบาท ขยายกำลังการผลิตของโรงงานทั้ง 2 แห่งราว 10-15% ซึ่งจะซื้อเครื่องจักรใหม่เข้ามาติดตั้งและคาดว่าจะเริ่มเดินเครื่องผลิตได้ตั้งแต่หลังวันหยุดเทศกาลสงกรานต์เดือน เม.ย.นี้
นายจักรพันธ์ มานิสสถิตย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TEAM กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้และกำไรสุทธิไม่ต่ำกว่าปีก่อนที่มีรายได้ 2,055 ล้านบาทและกำไรสุทธิที่ 45.5 ล้านบาท โดยขณะนี้มีออร์เดอร์แล้ว 1,120 ล้านบาทที่จะรับรู้รายได้ภายในปีนี้ทั้งหมด ขณะที่อุตสาหกรรมชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ยังมีศักยภาพในการเติบโตได้อีกมาก และบริษัทยังหาลูกค้าใหม่ตลอดเวลา
บริษัทตั้งงบลงทุนในปีนี้ 170 ล้านบาท เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตทั้ง 2 โรงงานที่ปราจีนบุรี และรังสิต ปทุมธานี โดยเครื่องจักรตัวแรกจะเข้ามาในต้นเดือน เม.ย.และคาดว่าจะเริ่มผลิตได้กลางเดือน เม.ย.หลังจากนั้นเครื่องจักรก็จะทยอยเข้ามาเพิ่มอีก เมื่อติดตั้งครบจะทำให้กำลังการผลิตของทั้ง 2 โรงเพิ่มขึ้นอีก 10-15% ของกำลังการผลิตรวม จากปัจจุบันเดินเครื่องกำลังการผลิตอยู่ที่ 60-70%
สำหรับค่าแรงที่ปรับขึ้นยอมรับว่ามีผลกระทบต่อต้นทุนการผลิต แต่บริษัทก็สามารถส่งผ่านไปยังลูกค้าได้ และก็จะเน้นที่ประหยัดต้นทุนการผลิต โดยการเจรจาต่อรองกับซัพพลายเออร์ และนำเครื่องจักรใหม่เข้ามาทดแทน จากเดิมที่ใช้แรงงานคนค่อนข้างมาก ซึ่งค่าแรงที่ปรับขึ้น 40-50% ถือว่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แน่นอนกระทบต่อต้นทุนผลิต และความผันผวนตลาดแรงงานที่ยังมีความไม่แน่นอน
ด้านปัญหาซัพพลายเชนที่เป็นผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วม คาดว่าจะกลับมาเป็นปกติกลางปี 55 นี้ ส่วนซัพพลายเชนที่เกิดปัญหาจากสึนามิที่ประเทศญี่ปุ่นกลับสู่ภาวะปกติแล้ว
บริษัทมีสัดส่วนรายได้จากการส่งออก 90% ในประเทศ 10% ลูกค้าหลักในต่างประเทศเป็นยุโรป 54% อเมริกาเหนือ 26% และเอเชีย 20% กลุ่มอุตสาหกรรมหลักยังเป็นการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ การแพทย์ และสินค้าอุปโภคบริโภค