น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เปิดเผยถึงผลการสอบสัญญาการให้บริการ 3 จี HSPA ระหว่างกลุ่ม บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) และ บมจ.กสท โทรคมนาคม (CAT)ในเบื้องต้นพบว่า สัญญาดังกล่าวมีเอกสารจำนวนมาก ซึ่งที่ผ่านมาคณะทำงานที่ตรวจสอบต้องใช้ระยะเวลานานถึง 120 วันในการตรวจหาข้อเท็จจริง ซึ่งจากที่เคยให้ข่าวก่อนหน้านี้ว่าจะสามารถแถลงข่าวผลสอบของสัญญาดังกล่าวได้ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น ขณะนี้ตนก็ยังไม่สามารถสรุปเนื้อหาทั้งหมดได้
อย่างไรก็ตาม เบื่องต้นจากที่ได้ศึกษาดูบ้างแล้วนั้น ยังพบว่าสัญญาดังกล่าวยังมีข้อพิรุธอยู่หลายจุด ทั้งนี้ รายละเอียดทั้งหมดจะเปิดเผยในสัปดาห์หน้าหลังจากที่กลับจากการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรที่ จ.ภูเก็ต
“ยืนยัน เรื่องนี้ไม่เงียบหายอย่างเด็ดขาด และไม่มีใครมายับยั้ง หรือล็อบบี้ให้การสอบต้องหยุดชะงัก และเป็นไปไม่ได้ที่สัญญานี้จะไม่ผิดเลย เนื่องจากรัฐบาลชุดนี้ได้ดำเนินการตรวจสอบมาตั้งแต่เป็นฝ่ายค้านแล้ว แต่ทั้งหมดก็ต้องให้ฝ่ายกฏหมายของกระทรวงไอซีทีตรวจสอบอย่างระเอียดอีกครั้ง โดยคาดว่าหลังจากประชุม ครม.สัปดาห์หน้าจะสามารถสรุปผลการเซ็นสัญญาดังกล่าวได้"รมว.ไอซีทีกล่าว
สำหรับสาเหตุที่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ทั้งหมดนั้น เนื่องจากเอกสารค่อนข้างมาก และต้องใช้เวลาศึกษาว่าไอซีทีควรส่งต่อให้หน่วยงานใดเป็นผู้พิจารณาต่อ โดยปัจจุบันมีหลายหน่วยงานกำลังตรวจสอบ คือ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และ กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)
น.อ.อนุดิษฐ์ ยังกล่าวว่า ทางบมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) ได้เข้าพบเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (16 มี.ค.)เพื่อขอให้สร้างความเป็นธรรมในการแข่งขัน โดยเฉพาะประเด็นประกาศกสทช.เรื่องการกำหนดข้อห้ามการกระทำที่มีลักษณะเป็นการครอบงำโดยคนต่างด้าว พ.ศ.2554 ที่ไม่เป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมโทรคมนาคมและไม่สร้างผลดีต่อต่างชาติหาก กสทช. เปิดประมูลใบอนุญาตให้บริการ(ไลเซ่นส์) 3 จีในอนาคต ซึ่งเป็นเรื่องที่มำให้เกิดความกังวล
ดังนั้น DTAC จึงต้องการให้กระทรวงไอซีทีเปรียบเสมือนตัวกลางเพื่อสร้างความเสมอภาค ทั้งนี้ ส่วนตัวเห็นว่าหากมีการเปิดประมูลใบอนุญาตได้เร็วในปีนี้ ก็จะดีต่ออุตสาหกรรมโทรคมนาคมในประเทศไทยด้วย