ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (16 มี.ค.) ทำสถิติปิดบวกติดต่อกัน 4 วันทำการ เพระได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มประกัน ซึ่งปัจจัยดังกล่าวสามารถบรรเทาความวิตกกังวลจากรายงานที่ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐลดลงอย่างเหนือความคาดหมายในเดือนมี.ค.
ดัชนี Stoxx Europe 600 Index ปรับตัวขึ้น 0.5% ปิดที่ 272.4 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3594.83 จุด บวก 14.62 จุด ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 7157.82 จุด บวก 13.37 จุด ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดวันศุกร์ที่ 5965.58 บวก 24.86 จุด
ในช่วงแรกนั้น ตลาดหุ้นยุโรปร่วงลงหลังจากรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนมี.ค.ลดลงสู่ระดับ 74.3 จุด จาก 75.3 จุดในเดือนก.พ. ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นแตะ 76 จุด ส่วนการคาดการณ์เงินเฟ้อของผู้บริโภคในช่วง 5-10 ปี เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 3.0% จาก 2.9%
ราคาน้ำมันเบนซินที่พุ่งขึ้นทำให้ผู้บริโภคชาวอเมริกันวิตกเกี่ยวกับค่าครองชีพที่สูงขึ้น โดยผู้บริโภคได้ปรับเพิ่มคาดการณ์เงินเฟ้อสำหรับปีหน้าสู่ระดับ 4% ซึ่งสูงสุดนับแต่เดือนพ.ค.เมื่อเทียบกับการสำรวจในเดือนม.ค.ที่ 3.3%
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นยุโรปดีดตัวขึ้นในช่วงบ่ายตามเวลายุโรปเมื่อวันศุกร์ หลังจากหุ้นกลุ่มประกันทะยานขึ้น โดยหุ้นอัลไลอันซ์ ซึ่งเป็นบริษัทประกันรายใหญ่สุดของยุโรปเมื่อพิจารณาจากทุนจดทะเบียนในตลาด พุ่งขึ้น 1.6% หุ้นสวิส ไลฟ์ โฮลดิ้ง ซึ่งเป็นบริษัทประกันรายใหญ่สุดของสวิตเซอร์แลนด์ ทะยานขึ้น 3.1% หุ้นเอเอ็กซ์เอ เอสเอ ซึ่งเป็นบริษัทประกันรายใหญ่อันดับ 2 ของยุโรปเมื่อพิจารณาจากมูลค่าตลาด ดีดตัวขึ้น 1.9% และหุ้นพรูเดนเชียล ซึ่งเป็นบริษัทประกันรายใหญ่สุดของอังกฤษ ปรับตัวขึ้น 1.5%
หุ้นทุลโลว์ ออย์ ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานของยุโรป พุ่งขึ้น 3.9%