นายแพทย์กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก เปิดเผยว่า ราคาทองคำในปีนี้จะยังมีความผันผวนต่อเนื่องจากปีก่อน โดยในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา(1 ม.ค.-28 ก.พ.55) ราคาทองคำในตลาดโลกปรับเพิ่มขึ้น 16-17% จาก จากระดับ 1,540 ดอลลาร์/ออนซ์ เป็น 1,795 ดอลลาร์/ออนซ์ ทำระดับราคาสูงสุด แต่ในวันที่ 29 ก.พ.55 ราคาทองคำปรัลลดลงถึง 100 ดอลลาร์/ออนซ์ และจนถึงปัจจุบันปรับลดลงไปแล้ว 160 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยราคาทองคำในประเทศช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ปรับลดลง 1,300 บาท/บาททองคำ จาก 25,300 บาท เป็น 24,000 บาท ลดลง 10%
ทั้งนี้ ในระยะสั้น-ระยะกลาง ราคาทองคำยังเป็นขาลง อาจเคลื่อนไหวในลักษณะ sideway ในขาลง ซึ่งเป็นผลมาจากการที่เศรษฐกิจสหรัฐดีขึ้น สะท้อนจากตัวเลขการจ้างงานที่ดีขึ้น ทำให้เงินดอลลาร์แข็งค่า จึงมีแรงเทขายทองคำ ขณะที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ออกมาประกาศชะลอการใช้มาตรการเพิ่มปริมาณเงินในระบบ (QE3)
นอกจากนี้การที่อินเดียมีท่าทีที่จะเพิ่มภาษีนำเข้าทองคำจาก 2% เป็น 3% อาจจะกดดันราคาทองคำในช่วงสั้นๆได้ เพราะจะมีผลทำให้ความต้องการทองคำลดลง โดยคาดว่าจะลดลง 30-35%
"ราคาทองคำตั้งแต่ต้นปี-ปัจจุบัน ยังมี spread ให้ผลตอบแทนอยู่อีก 4-5% โดยราคาทองคำยังมีความผันผวนสูง ดังนั้นนักลงทุนต้องระมัดรนะวังการซื้อขาย ให้ทำกำไรในขาลง" นายแพทย์กฤชรัตน์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำในระยะยาว มองอีก 3 เดือนข้างหน้ามีโอกาสที่จะปรับเป็นขาขึ้นได้ โดยมองระดับราคาทองคำสูงสุดในปีนี้น่าจะอยู่ใกล้เคียงระดับสูงสุดปีก่อนที่ 1,930 ดอลลาร์/ออนซ์ หรือ 27,000 บาท แต่คงไม่สามารถปรับขึ้นไปที่ระดับ 2,000 ดอลลาร์/ออนซ์ หรือ 30,000 บาทได้ เนื่องจากไม่มีปัจจัยหนุนจากการที่เฟดชะลอการใช้ QE3 ประกอบกับภาวะตลาดการเงินโลกยังไม่สมดุล ดังนั้น นักลงทุนในระยะยาวจึงเป็นโอกาสดีในช่วงนี้ที่จะทยอยช้อนซื้อเก็บสะสมได้ เพราะมองทองคำยังให้ผลตอบแทนอย่างน้อย 10%
สำหรับ Gold Futures ในช่วง 5-6 เดือน ถึงปัจจุบัน พบว่ามีปริมาณการซื้อขายลดลงเหลือ 15,000 สัญญา/วัน หรือลดลง 50-60% และมีมูลค่าการซื้อขายลดลง 70% โดยพบว่านักลงทุนหันไปลงทุนในทองคำ 10 บาทมากขึ้น จากเดิมที่จะลงทุนในสัญญา 50 บาท ประกอบกับนักลงทุนยังไม่เข้าใจการลงทุนใน Gold Futures มากนัก
และในวันนี้ กลุ่มบริษัท เอ็มทีเอสโกลด์ แม่ทองสุข ได้เปิดตัว เอ็มทีเอส โกลด์ เน็ตเวิร์ค เป็นระบบการซื้อขายทองคำผ่านระบบออนไลน์ โดน้เวลาในการวางระบบ 2 ปี ใช้เงินลงทุนกว่า 25 ล้านบาท เพื่อวางระบบการดำเนินการกิจการและระบบบริหารจัดการของการซื้อขายทองคำในระบบออนไลน์ และลูกค้ามีความสะดวกในการลงทุนทองคำแท่งผ่านระบบออนไลน์ในแต่ละจังหวัดทั่วประเทศ สามรถซื้อขายได้ทันเวลาจนถึงเที่ยงคืน มีความสะดวก ปลอดภัย ประหยัดเวลา
ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทยังได้มีพันธมิตรผู้ค้าทองคำรายใหญ่ 5 ราย ร่วมใช้ โซลูชั่น เอ็มทีเอส โกลด์ เน็ตเวิร์ค ได้แก่ ห้างทองอินทรย์ทอง จ.เชียงใหม่ ร้านทองสัจจาภรณ์ จ.จันทบุรี ร้านทองสมนึก จ.นครปฐม ร้านเพชรทองรุ่งเรือง จ.นครสวรรค์ และร้านทองเยาวราชทรัพย์สมบูรณ์ พระราม 2 ซึ่งคาดว่าจะช่วยเพิ่มยอดขายได้อีก 100% และตั้งเป้าที่จะเพิ่มพันธมิตรดังกล่าวเป็น 20-30 รายภายในปีนี้