นางสาววันดี กุญชรยาคง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.เอสพีซีจี (SPCG) เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนขายคาร์บอนเครดิตให้กับบริษัทแห่งหนึ่งในฝรั่งเศส ซึ่งคาดว่าจะเซ็นสัญญาราวปลายปีนี้ และจะเริ่มรับรู้รายได้ในปี 56 หลังจากที่มีความชัดเจนเกี่ยวกับกรอบตามอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (UNFCCC) ออกมาเสียก่อน
สำหรับแผนการลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ขณะนี้มีวงเงินกู้จากธนาคารกสิกรไทยรองรับอยู่ราว 4 พันล้านบาทในการลงทุน ซึ่งธนาคารสามารถหาพันธมิตรที่เป็นธนาคารรายอื่นเพื่อร่วมให้เงินกู้ เช่นเดียวกับ โครงการโซลาร์ โคราช 3,4,7 ที่บริษัทร่วมกับธนาคารกรุงศรีอยุธยา ทำให้บริษัทมองแผนการเพิ่มทุนให้กับผู้ถือหุ้นเดิม(PO)เป็นแผนสุดท้าย หากจำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมากเท่านั้น
และบริษัทมีแผนจะออก Infrastructure Fund เพื่อระดมทุนสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งคงต้องรอให้โครงการส่วนใหญ่ดำเนินการผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ได้ ทั้งนี้ คาดว่าจะเห็นกองทุนนี้ในช่วงปี 56 โดยเชื่อว่า ธนาคารกสิกรไทยที่มีความพร้อมและมีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาเครื่องมือทางการเงิน และเป็นพันธมิตรที่ดีกับบริษัท น่าจะเข้ามาช่วยดำเนินการในเรื่องนี้ได้
"ตอนนี้เราก็ยังไมได้ล้มเลิกแผนการเพิ่มทุน แต่มองเป็นทางเลือกสุดท้าย เพราะมีเครื่อ่งมือทางการเงินอื่นที่อำนวยความสะดวกให้เรา ทั้งการกู้ยืมเงิน และการออก Infrastruce Fund โดยหวังว่าปีหน้าน่าจะได้เห็น" นางสาววันดี กล่าว
ขณะที่ ความร่วมมือในโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์กับบมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง(RATCH)จะมีต่อเนื่อง โดยคาดว่าในปลายปีนี้คาดว่าจะได้ข้อสรุป หลังจากที่ปัจจุบันได้มีความร่วมมือก้นแล้ว 3 โครงการ