(เพิ่มเติม) KTB คงเป้าสินเชื่อปีนี้โต7%หลัง Q1/55ไปได้ดี,เล็งออกหุ้นกู้หลักแสนลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday March 22, 2012 14:19 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ธนาคารกรุงไทย(KTB) คงเป้าสินเชื่อปี 55 เติบโต 7% หลังจากช่วงไตรมาส 1/55 สินเชื่อยังเติบโตได้ดี ซึ่งธนาคารจะหันมาเน้นการปล่อยสินเชื่อภาคเอกชนให้มากขึ้น พร้อมกันนั้นธนาคารยังเตรียมเสนอขออนุมัติจากผู้ถือหุ้นเพื่อกำหนดวงเงินออกหุ้นกู้ในหลักแสนล้านบาท แต่ระยะเวลาที่จะเสนอขายขึ้นกับจังหวะและโอกาสที่เหมาะสม

ส่วนกระแสข่าวที่ระบุว่า KTB จะซื้อกิจการ บมจ.บัตรกรุงไทย(KTC)นั้น ยืนยันว่ายังไม่มีแนวคิดดังกล่าว เพราะจะทำให้เกิดความยุ่งยาก เนื่องจากจะทำให้ KTC กลายมาเป็ฯรัฐวิสาหกิจ แต่ยอมรับว่าอยากเห็น ROE ของ KTC อยู่ในระดับใกล้เคียงกับ KTB แต่คงต้องรอดูแผนงานที่จะดำเนินการก่อนจะพิจารณาในเรื่องอื่น ๆ

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ KTB กล่าวว่า การปล่อยสินเชื่อของธนาคารในช่วง 2 เดือนแรก (ม.ค.-ก.พ.55) ยังเติบโตได้ไม่มากนัก เนื่องจากภาครัฐมีการชำระคืนเงินกู้ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท แต่ในส่วนสินเชื่อภาคเอกชนยังเติบโตได้ดี ส่วนเดือน มี.ค.55 สินเชื่อเติบโตได้ดีขึ้น เนื่องจากภาครัฐมีการเบิกจ่ายเงินสินเชื่อค่อนข้างมาก ทำให้ในไตรมาส 1/55 สินเชื่อโดยรวมยังเติบโตได้ดี

"ในปีนี้เรายังคงนโยบายที่จะปล่อยสินเชื่อเอกชนมากขึ้นเพื่อเพิ่ม yield ส่วนสินเชื่อภาครัฐก็ยังปล่อยแต่จะเน้น switch ไป segment ที่มี yield สูงขึ้น ทั้งรายย่อยและเอสเอ็มอีที่จะเน้นมากขึ้น โดยสินเชื่อภาครัฐต้นปี 54 อยู่ที่ 19-20%ของสินเชื่อรวม ตอนปลายปี อยู่ที่ 18%" นายอภิศักดิ์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม ธนาคารยังคงเป้าสินเชื่อปี 55 ที่ 7% เนื่องจากขณะนี้ยังเร็วไปที่จะมีการทบทวนหรือประเมินสถานการณ์ แม้แนวโน้มเศรษฐกิจปีนี้ยังขยายตัวได้ดี แต่ยังมีปัจจัยความไม่แน่นอนหลายด้าน โดยเฉพาะน้ำท่วม ซึ่งผู้ประกอบการยังคงกังวลว่าปีนี้น้ำจะท่วมอีกหรือไม่ ขณะที่ดอกเบี้ยนโยบายคาดว่าน่าจะยังทรงตัวในระดับ 3% ซึ่งถือเป็นระดับที่ไม่สูง และช่วยสนับสนุนการเติบโตเศรษฐกิจได้ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อที่ 3% ถือเป็นระดับที่ยังไม่น่ากังวล แต่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)คงต้องติดตามปัจจัยกดดันเงินเฟ้อ

นอกจากนี้ ธนาคารเตรียมเสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นในเดือน เม.ย.55 ขอออกหุ้นกู้ในวงเงินหลักแสนล้านบาท ส่วนการออกจำหน่ายขึ้นอยู่กับจังหวะเวลาที่เหมาะสม และการออกหุ้นกู้ถือเป็นการเพิ่มช่องทางการระดมเงินของธนาคารให้ครบทุกช่องทาง จากเดิมที่จะระดมจากเงินฝาก การออกB/E หรือ P/N

นายอภิศักดิ์ ยังกล่าวอีกว่า ขณะนี้ธนาคารยังไม่มีแนวคิดหรือนโยบายที่จะดำเนินการใดๆกับ บมจ.บัตรกรุงไทย (KTC) ตามที่มีกระแสข่าว โดยขณะนี้ KTC อยู่ระหว่างการปรับตัว ทั้งด้านการบริหารจัดการ การลดต้นทน ค่าใช้จ่ายต่างๆ ซึ่งการปิดสาขา ถือเป็นส่วนหนึ่งของการลดต้นทุน ซึ่งแผนการปรับตัวน่าจะอยู่ในวิสัยที่ดำเนินการได้ ซึ่งธนาคารในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ก็รอดูผลการดำเนินการ

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า การดำเนินธุรกิจของบริษัทลูกทุกแห่งควรที่จะทำกำไร โดยควรมีระดับ ROE ในระดับเดียวกันหรือสูงกว่าของธนาคารที่อยู่ระดับ 14-17% หากน้อยกว่าจะกลายเป็นภาระของธนาคาร

"ปีที่แล้วบริษัทก็ขาดทุนไปยเอะ ซึ่งตอนนี้เราก็ดูอยู่ แผนบริหารของบริษัทก็ยังอยู่ในวิสัยที่น่าจะทำได้ เขาเองก็คงต้องกลับไปรีวิวว่าจะทำอะไรที่ลดต้นทุนทำได้ก็ทำไป...การจะซื้อหุ้นทั้งหมดกลับมา ก็จะกลายเป็นรัฐวิสาหกิจซึ่งเป็นเรื่องใหญ่" นายอภิศักดิ์ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ