ตลาดหุ้นไทยท้ายภาคบ่ายร่วงกว่า 10 จุด สวนทางตลาดหุ้นในภูมิภาค แต่เป็นในทิศทางเดียวกับตลาดฝั่งยุโรปที่เปิดทำการมาปรับตัวลดลงเป็นส่วนใหญ่ ขณะที่โบรกเกอร์ฯเปิดเผยว่าเกิดความกังวลเกี่ยวกับค่าเงินบาทในกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ หลังจากมีกระแสข่าวระบุว่านายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลังกล่าวว่าค่าเงินบาทอาจจะอ่อนลง รวมทั้งความเคลื่อนไหวทางการเมืองในประเทศ
เมื่อเวลา 16.05 น.ดัชนี SET อยู่ที่ 1,197.45 จุด ลดลง 10.22 จุด(-0.85%)
ล่าสุดเมื่อ 16.23 น.ดัชนี SET อยู่ที่ 1,194.48 จุด ลดลง 13.19 จุด(-1.09%)
แหล่งข่าวจากวงการโบรกเกอร์ เปิดเผยว่า ดัชนี SET ร่วงกว่า 10 จุด ในทิศทางเดียวกับตลาดในยุโรปที่ปรับตัวลง ภายหลังจากที่ตัวเลขภาคการผลิตของฝรั่งเศสงวดเดือนมี.ค.ออกมาหดตัว จาก 50.0 ในเดือนก.พ. มาที่ 47.6 ในเดือนมี.ค.ทำให้ตลาดในยุโรปโดนเขย่าลงตามไปด้วย และเงินดอลาร์สหรัฐฯก็แข็งค่าขึ้นมา
นอกจากนี้ ยังมีกระแสข่าวเรื่องที่นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ระหว่างโรดโชว์ที่ฮ่องกงว่าค่าเงินบาทมีแนวโน้มที่จะอ่อนค่าลง รวมถึงแนวโน้มเงินเฟ้อของไทยจะสูงขึ้นด้วย ซึ่งจะทำให้นักลงทุนต่างประเทศเกิดความกังวลว่าอาจจะเกิดการขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน จึงทำให้เป็นส่วนหนึ่งที่ขายทำกำไรออกมาในช่วงบ่ายนี้
ประกอบกับ สถานการณ์ทางการเมืองของไทยเริ่มอุณหภูมิร้อนแรงขึ้นหลังจากวานนี้มีการแสดงความคิดเห็นขัดแย้งเกี่ยวกับแนวทางสร้างความปรองดอง และมีการสอบถามถึงสาเหตุการปฏิวัติรัฐประหารในปี 49 ทำให้เกิดความกังวลว่าอาจจะลุมลามกลายเป็นประเด็นขัดแย้งในสังคม
พร้อมให้แนวรับ 1,189-1,200 จุด แนวต้าน 1,215 จุด