ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดวันนี้ที่ระดับ 1,191.00 จุด ลดลง 16.67 จุด(-1.38%)มูลค่าการซื้อขาย 40,149.78 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ในช่วงเช้า แต่พอมาถึงช่วงบ่ายโดยเฉพาะใกล้ปิดตลาดดัชนีฯได้ปรับตัวลงอย่างแรง โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่อยู่ระดับ 1,214.31 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,191.00 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 134 หลักทรัพย์ ลดลง 376 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 146 หลักทรัพย์
น.ส.อาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงบ่ายนี้ปรับตัวลง สวนทางตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวกเล็กน้อย ทั้งนี้ ภาพโดยรวมของตลาดผันผวน เนื่องจากเจอแรง take profit ภายหลังจากที่มีกระแสข่าวคำให้สัมภาษณ์ของนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลังที่ฮ่องกง ทำให้นักลงทุนต่างชาติเกิดความกังวลว่าค่าเงินบาทจะอ่อนค่าลงและเกรงจะขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน(FX)
ทั้งนี้มองว่าการให้สัมภาษณ์ของนายกิตติรัตน์ อาจเป็นเพียงมุมมองระยะยาว แต่ตอนนี้ตลาดฯก็ถือว่าขึ้นมามากแล้ว เมื่อมีปัจจัยเรื่องเล็ก ๆ เข้ามาก็พร้อมที่จะขายออกมาก่อน
สำหรับตัวเลข PMI ของจีนที่ลดลงเป็นเดือนที่ 5 ทำให้นักลงทุนเกิดความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจจีนด้วย แต่เท่าที่ดูตลาดหุ้นไม่ได้ตอบรับมาก เพราะคงจะมองว่าจีนอาจมีนโยบายทางการเงินมากระตุ้นได้ เนื่องจากเงินเฟ้อของจีนงวดเดือนก.พ.ยังต่ำอยู่
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้(23 มี.ค.)น.ส.อาภาภรณ์ กล่าวว่า คงจะต้องติดตามกระแสข่าวจากต่างประเทศเป็นหลัก เนื่องจากช่วงนี้ยังไม่ได้มีปัจจัยใหม่เข้ามามาก พร้อมแนะให้ซื้อตามค่าบวกเท่านั้น โดยดัชนีฯไม่ควรหลุดแนว 1,200 หากหลุดให้ลดพอร์ตตามบ้าง และมีแนวรับถัดไปที่ 1,180 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,210-1,220 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
IRPC มูลค่าการซื้อขาย 2,416.74 ล้านบาท ปิดที่ 4.76 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
DTAC มูลค่าการซื้อขาย 2,150.63 ล้านบาท ปิดที่ 82.25 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 1,893.04 ล้านบาท ปิดที่ 71.75 บาท ลดลง 0.75 บาท
TMB มูลค่าการซื้อขาย 1,830.33 ล้านบาท ปิดที่ 1.76 บาท ลดลง 0.09 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,339.33 ล้านบาท ปิดที่ 347.00 บาท ลดลง 7.00 บาท