นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง กล่าวปาฐกถาพิเศษ "การควบรวมกิจการ วาระแห่งชาติและทางรอดธุรกิจไทย" ในงานเสวนา "M&A: ปัจจัยความสำเร็จของธุรกิจไทย"โดยเน้นถึงความสำคัญของการควบรวมกิจการ ซึ่งเป็นกลยุทธ์ในการสร้างการเติบโตอย่างก้าวกระโดดให้แก่ภาคธุรกิจทุกระดับ ทำให้มีบริษัทที่แข็งแกร่งและมีศักยภาพสูง สร้างความน่าสนใจแก่ผู้ลงทุนทั้งในและต่างประเทศถือเป็นวาระสำคัญในการเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
รัฐบาลจึงมีมติเห็นชอบ (ร่าง)พระราชบัญญัติการส่งเสริมการควบรวมกิจการในตลาดทุน เมื่อ 4 มกราคม 2555 ซึ่งปัจจุบันกฎหมายดังกล่าวอยู่ในขั้นตอนของการพิจารณาร่างกฎหมาย ทั้งนี้ การปฏิรูปกฎหมายและระบบภาษีเพื่อส่งเสริมการควบรวมกิจการจะเกิดประโยชน์สูงสุดได้ย่อมขึ้นกับความร่วมมือของทุกภาคส่วนเป็นสำคัญ
นาย วรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการ สำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)กล่าวว่า (ร่าง) พระราชบัญญัติการส่งเสริมการควบรวมกิจการในตลาดทุนแสดงถึงนโยบายของภาครัฐในการสนับสนุนให้ภาคธุรกิจใช้กลไกการควบรวมกิจการเป็นเครื่องมือในการเพิ่มศักยภาพทางธุรกิจ ก.ล.ต. ตลาดหลักทรัพย์ฯและผู้เกี่ยวข้องในตลาดทุนเห็นพ้องกันว่าควรจะเร่งผลักดันให้ร่างกฎหมายนี้ออกมาใช้บังคับโดยเร็วและปรับปรุงเนื้อหาบางส่วนให้มีความชัดเจน สมบูรณ์ และสอดคล้องกับการปฏิบัติมากขึ้น
ดังนั้น ก.ล.ต.จึงได้แต่งตั้ง "คณะกรรมการขับเคลื่อนการควบรวมกิจการเพื่อพัฒนาธุรกิจและตลาดทุน"ประกอบด้วยผู้บริหารระดับสูงจากหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องและผู้เชี่ยวชาญจากหลายสาขาวิชาชีพมาร่วมระดมความเห็นและเสนอแนะเกี่ยวกับร่างกฎหมายดังกล่าว โดย ก.ล.ต.เชื่อว่าเมื่อสามารถขจัดอุปสรรคที่เกี่ยวข้องได้ ภาคธุรกิจจะมีการควบรวมกิจการกันมากขึ้นทำให้มีความแข็งแกร่งและสามารถแข่งขันได้ในเวทีระดับสากล
ด้านนายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)กล่าวว่า ปัจจุบันการที่ธุรกิจที่มีศักยภาพจะเติบโตจากการดำเนินธุรกิจปกติ(organic growth)เท่านั้นอาจไม่ทันต่อสถานการณ์การแข่งขันที่เข้มข้นขึ้น การควบรวมกิจการจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับภาคธุรกิจที่จะเลือกใช้เพื่อเพิ่มมูลค่าของกิจการจากการประหยัดในเชิงขนาด (economy of scale) เช่น ในบางธุรกิจที่สามารถขยายช่องทางการค้าได้อย่างรวดเร็วส่งผลต่อการบริหารจัดการ ทำให้บริษัทเข้มแข็ง เติบโต ซึ่งในกรณีของบริษัทจดทะเบียนจะสะท้อนมาสู่มูลค่าตามราคาตลาด (Market Capitalization)และสภาพคล่องโดยรวมที่เพิ่มขึ้น
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งเป็นองค์กรหลักในการขับเคลื่อนภาคตลาดทุนเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ระบบเศรษฐกิจโดยรวม จึงพร้อมให้ความร่วมมือกับทุกภาคส่วนในการผลักดันให้การควบรวมกิจการเป็นวาระสำคัญในการเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และสร้างโอกาสให้แก่บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ รวมถึงผู้ลงทุนด้วย
การจัดงาน เสวนา "M&A : ปัจจัยความสำเร็จของธุรกิจไทย" ครั้งนี้ เพื่อนำเสนอข้อมูลแก่ทุกภาคส่วน ทั้งภาคการเมือง ภาครัฐ ผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน และผู้ที่เกี่ยวข้องในตลาดทุนให้ได้รับทราบถึงความสำคัญของการควบรวมกิจการเพื่อเพิ่มศักยภาพและสร้างโอกาสเติบโตทางธุรกิจจากวิทยากรผู้มากประสบการณ์ร่วมถ่ายทอดหลากหลายแง่มุมที่ครบถ้วน ทั้งในแง่มุมของบริษัทจดทะเบียน จากนายชนินท์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. บ้านปู(BANPU) และนายอดิเรก ปฏิทัศน์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ. เอ็ม เอฟ อี ซี(MFEC) ความคิดเห็นของที่ปรึกษาทางการเงิน โดยนายอภินันท์ เกลียวปฏินนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ทุนภัทร(PHATRA) และมุมมองของที่ปรึกษากฎหมาย โดยนายกิติพงศ์ อุรพีพัฒนพงศ์ ประธานกรรมการ บจ. เบเคอร์ แอนด์ แม็คเค็นซี่